1. หอการค้าฯ ชี้ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ม.ค. 2554 ขยับเพิ่มขึ้น
- นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมกราคม 2554 อยู่ที่ 81.5 สูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 80.8 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจดีขึ้นจาก 71.9 มาอยู่ที่ 72.6 ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2
เนื่องจากผู้บริโภคกลับมามีความมั่นใจว่า ภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้น เพราะรายได้ในอนาคตมีแนวโน้มสูงขึ้น จากราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น และการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศที่การชุมนุมเข้มข้นขึ้น และปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชา แต่ขณะนี้เห็นทิศทางดัชนีเป็นขาขึ้น ทำให้การบริโภคกลับเข้าสู่ปกติ โดยคาดว่าปีนี้การบริโภคจะเติบโตร้อยละ 3.5 - 4.0 และจีดีพีเติบโตร้อยละ 4.0 - 5.0
- สศค. วิเคราะห์ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคทีปรับเพิ่มขึ้นในเดือน ม.ค. 2554 เป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกกชนที่มีสัดส่วนกว่าร้อยละ 52 ของ GDP ให้ขยายตัวต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปี 2554
ทั้งนี้ดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าว สอดคล้องกับ ปริมาณจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ในเดือน ม.ค. 2554 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สศค. คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนในปี 2554 จะขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 4.9 หรืออยู่ในช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.4 ถึง 5.4 (คาดการณ์ ณ ธันวาคม 2553)
2. ต่างชาติขอซื้อข้าวไทยแล้วกว่า 1.4 ล้านตัน
- รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีต่างประเทศหลายแห่งได้ติดต่อขอซื้อข้าวในสตอกของรัฐบาลในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) รวมกว่า 1.4 ล้านตันแล้ว ประกอบด้วย อินโดนีเซีย 500,000 ตัน, บรูไน 200,000 ตัน, มาเลเซีย 200,000 ตัน และไนจีเรีย 500,000 ตัน และจากนี้ไปรัฐบาลจะใช้นโยบายการคงสตอกข้าวเพียงประมาณ 100,000 ตันเท่านั้น เพื่อสำรองไว้สำหรับกรณีคนยากจนหรือเกิดเหตุสุดวิสัยซึ่งแต่ละปีคนเหล่านี้ต้องการข้าวบริโภคเพียงปีละประมาณ 50,000-60,000 ตัน
- สศค. วิเคราะห์ว่า การระบายข้าวในสตอกของรัฐบาลสอดคล้องกับฤดูกาลเก็บเกี่ยวซึ่งจะทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และรัฐจะต้องรับภาระในการดูแลราคาข้าว โดยในเดือน ม.ค. 54 นี้คาดว่ามูลค่าการส่งออกข้าวจะสูงขึ้นกว่าปกติ ทั้งนี้ราคาข้าวและสินค้าเกษตรต่างๆในตลาดโลกมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น จึงเป็นโอกาสดีสำหรับการส่งออกของไทย
3. คำสั่งซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นเดือน ธ.ค. 53 สูงที่สุดในรอบ 2 ปี ที่ร้อยละ 1.7
- คำสั่งซื้อเครื่องจักร (Core machinery order) ของประเทศญี่ปุ่นประจำเดือน ธ.ค. 53 สูงที่สุดในรอบ 2 ปีที่ร้อยละ 1.7 จากเดือนก่อนหน้า (%mom)บ่งชี้สัญญาณที่ดีในภาคการผลิต โดยหนึ่งในสาเหตุสำคัญมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐและจีนในระดับที่ดี
- สศค. วิเคราะห์ว่า ภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 53 น่าจะส่งสัญญาณการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ภายนอกประเทศ โดยเฉพาะจากสหรัฐและจีนที่กำลังความต้องการเริ่มปรับตัวดีขึ้นแล้ว ทั้งนี้ ฝ่ายเลขาฯคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2553 จะขยายตัวร้อยละ 3.6
ในขณะที่ในปี 2554 เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัวร้อยละ 1.3 หรือในช่วงคาดการณ์ร้อยละ 1.2 – 1.4 ต่อปี ลดลงจากปีก่อนหน้า โดยคาดว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะยังคงเผชิญกับความเสี่ยงด้านเงินฝืดและปัญหาการว่างงานต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
Thailandindustrycom_official
