ภาษีสรรพสามิตในเดือนมกราคม 2554 กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้ 37,732.15 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 3,991.37 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.83 ส่งผลให้ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 (ตุลาคม 2553 – มกราคม 2554) จัดเก็บได้ 149,569.38 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 17,364.02 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.13
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในเดือนมกราคม 2554 ว่ากรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บได้รวม 37,732.15 ล้านบาท สูงกว่าเดือนมกราคม 2553 จำนวน 3,705.11 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.89 (เดือนมกราคม 2553 จัดเก็บได้ 34,027.04 ล้านบาท) และสูงกว่าประมาณการจำนวน 3,991.37 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.83
สำหรับรายได้ภาษีที่กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้สูงสุด จำนวน 13,716.91 ล้านบาท 2) ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 7,805.11 ล้านบาท 3) ภาษีสุรา จัดเก็บได้จำนวน 5,166.90 ล้านบาท 4) ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ 4,820.91 ล้านบาท และ 5) ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 4,442.05 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากผลการจัดเก็บรายได้เดือนมกราคม 2554 ที่สูงกว่าเป้าหมายส่งผลให้รายได้ภาษีสรรพสามิต 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้จำนวน 149,569.38 ล้านบาท สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 14,766.55 ล้านบาท (ปีก่อนจัดเก็บได้จำนวน 134,802.83 ล้านบาท) และสูงกว่าประมาณการจำนวน 17,364.02 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.13
โดยภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้สูงสุด จำนวน 52,087.70 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้จำนวน 30,839.77 ล้านบาท อันดับสามได้แก่ ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้จำนวน 21,582.09 ล้านบาท อันดับสี่ได้แก่ ภาษียาสูบ จัดเก็บได้จำนวน 20,419.53 ล้านบาท และอันดับที่ห้าได้แก่ ภาษีสุรา จัดเก็บได้จำนวน 17,359.71 ล้านบาท
ตารางเปรียบเทียบรายได้ภาษีสรรพสามิตสูงสุด 5 อันดับ ใน 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554
(ตุลาคม 2553 – มกราคม 2554)
“กรมสรรพสามิตจะมุ่งเน้นสร้างความโปร่งใสและการบริหารการจัดเก็บภาษีในเชิงรุก สร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้ที่เสียภาษีโดยสุจริต พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทันสมัยมาปรับใช้ในการจัดเก็บภาษีและบริการประชาชนให้มากขึ้น” อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวในตอนท้าย