โสสุโก้ ยิ้มปี 53 ผลงานดียอดขายโตตามเป้า ปีนี้ทุ่มอีก 500 ล้านย้ำแนวคิด ใส่ใจทุกเรื่อง กระเบื้องโสสุโก้ หวังดันยอดโตเพิ่มอีก 10%
โสสุโก้ ยิ้มปี 53 ผลงานดียอดขายโตตามเป้า ปีนี้ทุ่มอีก 500 ล้านย้ำแนวคิด ใส่ใจทุกเรื่อง กระเบื้องโสสุโก้ หวังดันยอดโตเพิ่มอีก 10%
นายกิตติชัย ไกรก่อกิจ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด
“โสสุโก้” ยิ้มรับผลประกอบการปี 53 ยอดขายรวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ปี 2554 ตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้นอีก 10% เตรียมงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท เพื่อย้ำแนวคิด “ใส่ใจทุกเรื่อง กระเบื้องโสสุโก้” พร้อมจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายแก่ดีลเลอร์ ช่างปูกระเบื้อง และกลุ่มผู้บริโภค
นายกิตติชัย ไกรก่อกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านการตลาดและการขายผลิตภัณฑ์กระเบื้องปูพื้นและบุผนัง “โสสุโก้” เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2553ที่ผ่านมาว่า “เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สามารถทำยอดขายรวมได้ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 80% และตลาดส่งออก 20%
“สำหรับในปี 2554 นี้ ตั้งเป้ายอดขายสูงขึ้นประมาณ 10 % โดยตลาดในประเทศมียอดขายดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ จังหวัดในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) มีประชากรอยู่เป็นจำนวนมาก ถือเป็นตลาดใหญ่สร้างรายได้แก่บริษัท ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมลวดลายกระเบื้องโสสุโก้มาโดยตลอด ขณะที่ภาคใต้ที่รายได้หลักของประชากรมาจากการทำสวนยางพารา ซึ่งขณะนี้ราคายางสูง ส่งผลให้เกษตรกรและนักธุรกิจในพื้นที่มีรายได้ดี สามารถปลูกและซ่อมแซมบ้านได้”
“ด้านตลาดส่งออกปีนี้ บริษัทพยายามจะผลักดันสัดส่วนส่งออกจากเดิม 20% ให้เป็น 25% โดยการเพิ่มตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะแถบMiddle East และแอฟริกา ที่ยังมีความต้องการใช้กระเบื้องเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแผนการตลาดในปี 2554 บริษัทฯ เตรียมทุ่มงบประมาณมูลค่าถึง 500 ล้านบาท เพื่อประชาสัมพันธ์ตอกย้ำแนวคิด “ใส่ใจทุกเรื่อง กระเบื้องโสสุโก้” ให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป โดยเฉพาะในต่างจังหวัด หลังจากปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จจากการจัดกิจกรรมกับประชาชนเขตกรุงเทพและปริมณฑล นอกจากนี้ยังเน้นจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายแก่ช่างปูกระเบื้อง สถาปนิก ผู้รับเหมาก่อสร้าง ตัวแทนจำหน่าย และประชาชน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการซื้อสินค้าตลอดทั้งปี
“ขณะเดียวกัน ในภาคการผลิตบริษัทฯ พร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 48 ล้านตารางเมตรต่อปี เป็น 53 ล้านตางรางเมตรต่อปี เนื่องจากบริษัทมีเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่พร้อมรองรับการขยายกำลังการผลิตอยู่แล้ว”
“ด้านทิศทางตลาดกระเบื้องปัจจุบันนั้น บริษัทถือเป็นผู้นำในการริเริ่มวิจัยและพัฒนากระเบื้องขนาดใหญ่ออกสู่ตลาด อาทิเช่น 30 x 60 ซ.ม. 60 x 60 ซ.ม. ลายไม้ ลายหิน เพื่อใช้ทดแทนวัสดุธรรมชาติ ในอนาคตจะมีการแนะนำกระเบื้องขนาดใหญ่อื่น ๆ เพิ่มอีก และคาดว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ตลาดน่าจะเติบโตมากที่สุด” นายกิตติชัย กล่าว
สำหรับการปรับราคาขายกระเบื้อง ถึงแม้ว่าภาวะต้นทุน พลังงานและแรงงานจะเพิ่มขึ้นก็ตาม บริษัทฯ จะพิจารณาปรับระดับราคาแบบค่อยเป็นค่อยไปแบบขั้นบันได โดยเน้นความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับสถานการณ์ เนื่องจากต้องคำนึงถึงตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภค โดยเฉพาะประชาชนในต่างจังหวัดที่มีรายได้ไม่สูงนัก จะได้สามารถใช้กระเบื้องคุณภาพในราคาไม่แพงเกินไป