ส่งออก ชี้ช่องอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเจาะตลาดลิเบีย ระบุมีโอกาสโตอีกมาก แนะเร่งส่งเสริมแรงงานฝีมือไทยเข้ารับงานให้มากขึ้น
ส่งออก ชี้ช่องอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยเจาะตลาดลิเบีย ระบุมีโอกาสโตอีกมาก แนะเร่งส่งเสริมแรงงานฝีมือไทยเข้ารับงานให้มากขึ้น
นายภูสิต รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านแผนพัฒนาการส่งออก เปิดเผยหลังจากให้การต้อนรับคณะนักธุรกิจชาวลิเบียประกอบด้วย ด้านอุตสาหกรรมก่อสร้าง ธุรกิจบริการสุขภาพและการรักษาพยาบาล
การนำเข้าเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ และการนำเข้าและจำหน่ายอาหารและผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อหารือเรื่องสนับสนุนบริษัทก่อสร้างไทยเข้าไปรับงานในลิเบียให้มากขึ้น รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัทสถาปนิกออกแบบก่อสร้าง วิศวกรที่ปรึกษา วัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้าน และขอให้ส่งเสริมแรงงานไทยที่มีฝีมือเข้าไปรับงานในลิเบียให้มากขึ้น
“ลิเบียเพิ่งเปิดประเทศมาไม่นาน มีความต้องการพัฒนาประเทศในทุกสาขา ทั้งด้านบุคลากร การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ได้แก่ ถนน ไฟฟ้า โทรศัพท์ ระบบชลประทาน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า สนามบิน ฯลฯ การพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต การเกษตร อาหาร ซึ่งลิเบียเองมีรายได้หลักจากการส่งออกน้ำมันปีละกว่า 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่นำเข้าสินค้าปีละประมาณ 13,000- 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ลิเบียมีรายได้เหลือสำหรับใช้พัฒนาประเทศจำนวนมหาศาล
และลิเบียยังมีโครงการก่อสร้างมากมายทุกเมืองทั่วประเทศเนื่องจากมีประชากรประมาณ 6 ล้านคนจึงจำเป็นต้องนำเข้าบุคลากรและคนงานเข้ามาพัฒนาประเทศจำนวนหลายล้านคน และทางลิเบียเองยังมีความสนใจที่จะใช้วัสดุก่อสร้างประเภทต่างๆ จากประเทศไทย เนื่องจากมีคุณภาพดีและราคาไม่สูงนักรวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศจากประเทศไทย ซึ่งนับเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เราจะกระจายสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดลิเบีย” นายภูสิต กล่าวเพิ่มเติม
ลิเบียนับเป็นคู่ค้าอันดับ 6 ของไทยในภูมิภาคแอฟริกา รองจาก แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย อียิปต์ โกตดิวัวร์ เบนิน ตามลำดับ และไทยเป็นตลาดคู่ค้าสำคัญที่สุดของลิเบียในภูมิภาคอาเซียน โดยในปี 2553 (ม.ค.-ธ.ค.) ไทยมีมูลค่าการส่งออกไปลิเบีย 244.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 8.68
สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เครื่องซักผ้าและส่วนประกอบ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เป็นต้น
ที่มา : กรมส่งเสริมการส่งออก