เนื้อหาวันที่ : 2011-02-08 13:33:15 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 788 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 8 ก.พ. 2554

1. ยอดขอตั้งบริษัท เดือน ม.ค. 54 สูงสุดในรอบ 99 ปี
- รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ยอดธุรกิจขอจดทะเบียนตั้งใหม่เดือน ม.ค. 54 มีจำนวน 5,307 ราย สูงสุดในรอบ 99 ปี นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติตั้งแต่ปี 2485 โดยเพิ่มขึ้น 2,915 ราย หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 53 และเพิ่มขึ้น 663 ราย หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มี 4,644 ราย ส่วนทุนจดทะเบียนทั้งสิน 16,900 ล้านบาท
 
- สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดขอตั้งบริษัทใหม่ที่เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 53 โดยในปี 53 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ และยอดขายรถยนต์ขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 15.5 และ 48.0 ตามลำดับ

ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยในเดือนธ.ค. 43 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 71.9 และ 109.7 ตามลำดับ ทั้งนี้ สศค.คาดว่า ในปี 54 การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวร้อยละ 3.4  และ 11.3  (ประมาณการ ณ เดือน ธ.ค. 53)
 
2. ชี้ ไทย-เขมร ปะทะไม่กระทบต่อจีดีพีปี 54
- นายทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนายการ สำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงสถานการณ์สู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา บริเวณชายแดนว่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก เพราะว่าการค้าไทยกับกัมพูชามีสัดส่วนแค่ไม่ถึงร้อยละ 1 ของมูลค่าการส่งออกไปต่างประเทศทั้งหมด
 
- สศค.วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชา คาดว่าไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก เนื่องจากการส่งออกไทยไปกัมพูชามีสัดส่วนเพียงร้อยละ 1.2 ของมูลค่าการส่งออกรวม (สินค้าการส่งออกสำคัญของไทยไปกัมพูชา คือ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำตาลทราย ปูนซีเมนต์ เครื่องดื่มและ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์)

ในขณะที่ ด้านการท่องเที่ยวมีสัดส่วนร้อยละ 0.9 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งนี้ สศค. คาดว่าในปี 2554  เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวจากปีก่อนหน้าที่ร้อยละ 4.5 หรืออยู่ในช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.0 ถึง 5.0 (คาดการณ์ ณ. ธ.ค. 53)
 
3. อินโดนิเซียแถลง GDP ไตรมาส 4 ปี 53 ขยายตัวร้อยละ 6.9
- สำนักสถิติกลางอินโดนีเซีย เผย GDP ทั้งปี 53 ของอินโดนีเซียขยายตัวร้อยละ 6.1 เร่งขึ้นมากจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.5  โดยในไตรมาส 4 เศรษฐกิจอินโดนีเซียขยายตัวร้อยละ 6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า  เร่งขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 5.8 ส่งผลให้อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวสูงสุดในบรรดาประเทศสมาชิกกลุ่มจี 20
 
- สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียในไตรมาส 4 ที่ขยายตัวในระดับสูงเป็นผลมาจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยขยายตัวถึงร้อยละ 16.1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการส่งออกไปยังจีนและอินเดียที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งอุปสงค์ในประเทศยังคงขยายตัวดี โดยการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 8.7 และ 4.4 ตามลำดับ

ในขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังคงขยายตัวดีที่ร้อยละ 7.3 ซึ่งจะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอินโดนีเซียและเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งนี้ เศรษฐกิจอินโดนีเซียที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อไทย อนึ่ง อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกหลักของไทย มีสัดส่วนร้อยละ 3.8 ของมูลค่าการส่งออกรวมในปี 53

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง