การจ้างงานในเดือน ธ.ค. 53 อยู่ที่ 39.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.7 แสนคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือขยายตัวร้อยละ 1.7 โดยการจ้างงานภาคเกษตรมีจำนวน 17.0 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.6 แสนคน เนื่องจากเป็นช่วงเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร ประกอบกับผลผลิตออกมามากทำให้แรงงานนอกภาคการเกษตรย้ายกลับเข้ามาเพื่อรับจ้างเก็บเกี่ยว
การจ้างงานภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 7.1 ล้านคน ลดลง 1.6 แสนคน จากสาขาการผลิตผลิตภัณฑ์จากโลหะประดิษฐ์ และสาขาการผลิตเฟอร์นิเจอร์/เครื่องประดับ และการจ้างงานภาคบริการมีจำนวน 15.0 ล้านคน ลดลง 1.8 แสนคน จากสาขาการขายส่ง/ขายปลีก อสังหาริมทรัพย์ และการเงิน ขณะที่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าโดยปรับผลทางฤดูกาลแล้วพบว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้นจำนวน 6.4 แสนคน และส่งผลให้การจ้างงานรวมทั้งปี 53 อยู่ที่ 38.0 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 1.0
อัตราการว่างงานในเดือนธ.ค. 53 อยู่ที่ร้อยละ 0.7 ของกำลังแรงงานรวม ซึ่งต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์นับจากที่ทางสำนักงานสถิติฯ ได้สำรวจมา โดยมีจำนวนผู้ว่างงานทั้งสิ้น 2.7 แสนคน โดยอยู่ในภาคบริการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเกษตร 6.6 4.7 และ 5.7 หมื่นคน ตามลำดับ และผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 1.0 แสนคน ส่งผลให้อัตราการว่างงานในไตรมาส 4 ปี 53 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ของกำลังแรงงานรวม หรือ 3.4 แสนคน และทั้งปี 53 อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวม หรือ 4.0 แสนคน
สินเชื่อเดือน ธ.ค. 53 ขยายตัวเร่งขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ที่ร้อยละ 12.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดี่ยวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นการขยายตัวของทั้งสินเชื่อธุรกิจที่ขยายตัวเร่งขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ร้อยละ 5.2 และสินเชื่อภาคครัวเรือนที่ยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่องที่ร้อยละ 15.0
บ่งชี้ว่าความต้องการสินเชื่อที่สามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ และหากขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว สินเชื่อรวมจะขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ 1.5 จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่เงินฝากสถาบันการเงินเดือน ธ.ค. 53 ขยายตัวร้อยละ 8.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดี่ยวกันของปีก่อนหน้า เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 8.1
ซึ่งหากขจัดผลทางฤดูกาลแล้ว จะขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จาก (1) การระดมเงินฝากของธนาคารเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อในระยะต่อไป (2) การแข่งขันระหว่างธนาคารเพื่อจูงใจลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ผ่านการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และออกผลิตภัณฑ์เงินออมพิเศษ เพื่อรองรับความต้องการสินเชื่อที่มีแนวโน้มขยายตัวเร่งขึ้น ตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง
ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือน ธ.ค.53 เกินดุลที่ 1,750 ล้านดอลลาร์สรอ.ต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยเป็นผลจากการเกินดุลการค้าที่ 1,310 ล้านดอลลาร์สรอ. และการเกินดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุลที่ประมาณ 529 ล้านดอลลาร์สรอ.ตามมูลค่าการส่งออกที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงต่อเนื่อง
ประกอบกับรายได้จากการท่องท่องเที่ยวอยู่ในระดับที่สูงตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน ธ.ค. ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดทั้งปี 53 เกินดุลในระดับที่สูงที่ 14,784 ล้านดอลลาร์สรอ. แต่ลดลงจากปี 52 ที่เกินดุลที่ 21,866 ล้านดอลลาร์สรอ.ตามภาวะการนำเข้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเป็นสำคัญ
Thailandindustrycom_official
