ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดกบฏอัปลักษณ์
กฤษฎา ชลวิริยะกุล
ศูนย์สุขภาพจิตที่ 1
ชนใดไม่มีดนตรีกาล
ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ
เขานั้นเหมาะคิดกบฏอัปลักษณ์
บทกลอนนี้ได้สื่อให้เห็นว่า ดนตรีเป็นสิ่งจำเป็นของขีวิต ใครไม่มีดนตรีในจิตใจก็นับว่าผิดปกติ เพราะชีวิตของคนจำเป็นต้องมีสิ่งหล่อเลี้ยงให้ชุ่มชื่น เปรียบประดุจน้ำที่ใช้หล่อเลี้ยงร่างกายของมนุษย์นั่นเอง เสียงดนตรีหรือทำนองของดนตรีมีหลากหลายชนิด เสียงสูง เสียงต่ำ มีเนื้อร้อง เป็นเพลงบรรเลง ทำนองเร็ว ทำนองช้า แตกต่างกันไป ทุกชาติ ทุกภาษา
ในโลกนี้ต่างมีเสียงและทำนองของดนตรีเป็นของตนเอง มีเพลงประจำชาติเป็นของตนเอง มีเพลงเห่กล่อมลูก เป็นของตนเอง มีเพลงปลุกพลังใจ เพลงเพื่อการผ่อนคลายจิตใจ ทำนองสวดมนต์ มีกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ ที่เป็นทำนองของคนเองทั้งสิ้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าดนตรีเป็นเสียงทิพย์ที่นำพาชิวิตไปพบกับความสุข ยามที่มนุษย์มีดนตรีเข้ามาในชีวิตประจำวันความสุขก็บังเกิดขึ้น
เสียงดนตรีดังขึ้นเมื่อใดก็ปลุกใจให้ตื่นให้ชุ่มชื่น กระตือรือร้นเกิดความสนุก ผ่อนคลาย และเรียนรู้ได้ดีขึ้น ในขณะทำงานถ้ามีเสียงเพลง หรือเสียงดนตรีเบา ๆ เปิดคลอไปด้วย จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ตื่นตัวกว่าปกติ โดยเฉพาะเวลาที่รู้สึกเครียดหรือมีการงานมากมาย ดนตรีจะช่วยให้ลืมความทุกข์ ลืมความวิตกกังวลได้ บางเพลงช่วยปลุกปลอบให้กำลังใจ มีความหวังต่อการดำเนินชีวิตให้บรรยากาศที่สดชื่น กระปรี้กระเปร่า หรือทำให้เกิดจินตนาการที่แสนหวานประทับใจ
จากปรัชญาโบราณก็ได้กล่าวถึงดนตรีว่า
เป็นวิทยาการขั้นสูงในการพัฒนาชีวิต
ดนตรีนั้นใช้สอนการมีมนุษยสัมพันธ์
และทำให้มนุษย์มีจิตเมตตากรุณา
และรักความเที่ยงธรรม
ทำให้มนุษย์ได้ปลดปล่อยตนเองเป็นอิสระ
ดนตรีจึงมีอิทธิพลต่อความเป็นมนุษย์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วยขัดเกลาจิตวิญญาณ จากความแข็งกระด้างหม่นหมอง ขาดความร่วมมือ หมดพลัง ท้อแท้ ให้สามารถกลับมาเป็นผู้ที่มีชีวิตสุนทรีย์ มีจิตใจอ่อนโยน อ่อนน้อมถ่อมตน ทำตนให้เป็นประโยชน์ มีมนุษยสัมพันธ์ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือมากขึ้น
องค์กรที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาด้านจิตวิญญาณจึงมักใช้เสียงดนตรีเข้ามาปลุกให้สมาชิกในองค์กรรักกันมากขึ้น รักองค์กรมากขึ้น มีจินตนาการถึงความสุข มีดนตรีในหัวใจ และมีศิลปะในการดำเนินชีวิต สร้างการทำงานเป็นทีมได้ง่ายขึ้น เพราะทุกคนได้เรียนรู้และเข้าใจชีวิตมากขึ้น
เมื่อจิตใจผ่อนคลายความรู้สึกของการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น การวางมาดเข้มเข้าหากันก็จะถูกแทนที่ด้วยความเยือกเย็น การมีอารมณ์ขันเพราะดนตรีและลีลาของความสนุกสนานมาทะลายกำแพงความก้าวร้าวเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยนและเป็นมิตรไมตรีต่อกัน เพราะธรรมชาติมนุษย์ต้องการมิตรภาพ ความรัก และความสุข ด้วยกันทั้งสิ้น ธรรมชาติจึงได้สร้างเสียงดนตรีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคนเช่นกัน
เมื่อคุณอยู่กับความสงบจะพบและได้ยินเสียงหายใจ เสียงเต้นของหัวใจตนเองเป็นจังหวะซึ่งเป็นพื้นฐานเสียงดนตรีที่ไพเราะที่สุด คุณเคยเงี่ยหูฟังไหมคะ... ไม่อยากให้ฟังแต่เสียงพิมพ์ดีด เสียงนับเงิน และเสียงทะเลาะเพื่อเอาชนะกัน ลองหันมาฟังเสียงดนตรีของตนเองและเสียงดนตรีจากเครื่องดนตรีให้เป็นรางวัลของชีวิต เพื่อชีวิตที่สุนทรีย์ และมีความสุขมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์สุขภาพจิตที่ 1
Thailandindustrycom_official
