เนื้อหาวันที่ : 2011-01-31 14:48:03 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2009 views

SENA เปิดแผนปี 54 ขยายฐานรายได้ กระจายความเสี่ยง

SENA เปิดแผนงานปี 2554 เร่งขยายฐานรายได้ รุกสู่ธุรกิจให้เช่าเพื่อกระจายความเสี่ยง/วางเป้าปีนี้โตอีก 10-15%

ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์
กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

SENA เปิดแผนงานปี 2554 เร่งขยายฐานรายได้ รุกสู่ธุรกิจให้เช่าเพื่อกระจายความเสี่ยง/วางเป้าปีนี้โตอีก 10-15%

SENA เปิดแผนงานปี 2554 เตรียมผุด 8 โครงการใหม่มูลค่ากว่า 6,000 ลบ.หวังหนุนผลประกอบการขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมเตรียมรุกขยายฐานรายได้ที่เกิดจากธุรกิจให้เช่ามากขึ้นเพื่อบริหารพอร์ตรายได้ของบริษัทให้มีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต หลังจากปีที่ผ่านมา โครงการเดอะนิชรัชดา-ห้วยขวาง โอนล่าช้า แต่มั่นใจสามารถโอนและรับรู้รายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตอีก 10-15% แตะที่ระดับประมาณ 1,500 ล้านบาท

ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (SENA) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2554 ว่าเตรียมที่จะเปิดโครงการใหม่อีกประมาณ 8 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท

โดยมีทั้งโครงการประเภทแนวราบและแนวสูง รวมไปถึงการขยายไปสู่ธุรกิจให้เช่าอีกด้วย เนื่องจาก SENA ต้องการบริหารพอร์ตรายได้ของบริษัทให้มีอัตราการเติบโตดีอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งถือเป็นการบริหารความเสี่ยงในด้านผลประกอบการอีกรูปแบบหนึ่งที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนมั่นใจได้ว่าผลประกอบการของ SENA จะสามารถขยายตัวได้ดีในอนาคตโดยไม่แกว่งตัวผันผวนมากนัก ถึงแม้จะเกิดวิกฤตการณ์ทางด้านเศรษฐกิจอันเกิดจากปัจจัยต่างๆ ก็ตาม

“ปีนี้ SENA ปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยนอกเหนือจากการเปิดโครงการใหม่ทั้งประเภทแนวราบและแนวสูงแล้ว ยังจะเน้นรุกในส่วนของธุรกิจให้เช่ามากขึ้น ขณะที่ตั้งงบประมาณด้านธุรกิจเช่าและบริการประมาณ 1,000 ล้านบาท สำหรับโครงการอย่างน้อย 2 โครงการ อาทิ เช่น ศูนย์การค้ารูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ และสนามกอล์ฟพร้อมโรงแรม เป็นต้น พร้อมทั้งได้วางเป้าหมายในระยะ 3 ปีนับจากนี้รายได้จากธุรกิจให้เช่าจะมีสัดส่วนเป็นประมาณ 5.5% ของรายได้รวมหรือคิดเป็นมูลค่า 81 ล้านบาท”

ดร.เกษรา ได้กล่าวถึงบริษัทกำหนดเป้าหมายผลประกอบการในปี 2554 น่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ประมาณ 10-15% ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ระดับประมาณ 1,500 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบัน SENA มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นปี 53 ประมาณ 1,232 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 90% ของมูลค่า อาทิจากโครงการ เดอะนิชรัชดา-ห้วยขวาง, เดอะนิช ซิตี้ ลาดพร้าว 130

ขณะเดียวกันสำหรับยอดขายปีนี้จะเป็นยอดขายจากการพัฒนาโครงการใหม่ และยอดขายจากโครงการเดิมที่ยังมีเหลือขายอยู่ อาทิ เช่น โครงการเดอะนิช ซิตี้ ลาดพร้าว130, เดอะนิช ตากสิน, เสนา แกรนด์โฮม วิลล่า รามอินทรา และเดอะคิทท์ แจ้งวัฒนะ

สำหรับโครงการเดอะนิช รัชดา-ห้วยขวาง ตามเดิมเคยคาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้กับลูกค้าได้ในช่วงปลายปี 2553 แต่เนื่องจากติดปัญหาในเรื่องงานเอกสารทางราชการ ทำให้ปัจจุบันยังไม่ได้มีการออกโฉนดที่ดินและยังไม่ได้โอนห้องชุดให้กับลูกค้า

ขณะที่ ได้ดำเนินการตรวจอาคารจากเจ้าหน้าที่เป็นที่เรียบร้อยแล้วและอาคารก็ถูกต้องไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่รอการออกเอกสารจากทางราชการ เท่านั้น ในเบื้องต้น SENA ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าจนเป็นที่พึงพอใจกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นการอนุญาตให้ลูกค้าเข้าอยู่อาศัยได้ก่อนสำหรับลูกค้าที่มีสัญญาเงินกู้จากทางธนาคารแล้ว

ส่วนสัญญาวงเงินกู้เดิมของลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราเท่าเดิม จากที่ SENA ได้ประสานงานกับทางธนาคารเพื่อให้ลูกค้าได้รับอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม หากมีกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้นบริษัทพร้อมที่จะรับผิดชอบในส่วนต่างที่เกิดขึ้นด้วย เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความตั้งใจจริงในการดูแลเอาใจใส่ต่อลูกค้าเสมอมา

ดร.เกษรา กล่าวต่อในช่วงท้าย เนื่องจากการขยับตัวของ GDP ที่ไม่ดีนักเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว กล่าวคือน่าจะขยายตัวที่ระดับ 4-5% ขณะที่แนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2554 ซึ่งจะเป็นปีที่เติบโตในอัตราที่ลดลง ทั้งนี้ เนื่องจากมีปัจจัยที่กดดันตลาดตามที่อัตราดอกเบี้ยมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น มาตรการสนับสนุนภาครัฐที่หมดลงในปี 53 และยังมีมาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) สำหรับที่อยู่อาศัยแนวสูงประเภทคอนโดที่มีผลบังคับใช้ในปี 54

ขณะเดียวกันแนวโน้มกำลังซื้อตลาดคอนโดเริ่มชะลอตัวลงจากตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์การซื้อขายคอนโดที่ลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ตามภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวได้แต่ไม่ร้อนแรงเหมือนปีก่อนหน้า จึงนับเป็นปีที่ท้าทายโดยผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง

ซึ่งสำหรับ SENA จะมุ่งเน้นการปรับกลยุทธ์เน้นทำการตลาดด้านการสื่อสารภาพลักษณ์ มุ่งเน้นการสร้าง Brand และการกำหนด Positioning ที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ และเป็นทางเลือกที่ดีในการตัดสินใจของผู้บริโภค อีกทั้งบริษัทพร้อมที่จะปรับตัวไปเน้นตลาดในโครงการแนวราบ (บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์) และเน้นรุกธุรกิจเช่ามากขึ้นตามทิศทางตลาดที่ได้กล่าวไปในเบื้องต้น