เนื้อหาวันที่ : 2011-01-28 15:20:11 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 638 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 28 ม.ค. 2554

1. สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือฯคาดส่งออกปี 54 โตร้อยละ 17
-  นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่าได้ประเมินทิศทางการส่งออกในปีนี้ว่ายังเติบโตค่อนข้างดี โดยคาดว่าการส่งออกในเชิงปริมาณจะมีการขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ต่อปี และมูลค่าการส่งออกจะเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 17 ต่อปี

เนื่องจากความต้องการสินค้าในตลาดต่างประเทศทั่วโลกยังมีสูงและราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ส่วนปัญหาค่าระวางเรือนั้น จะไม่ผันผวนเหมือนปี 2553 ขณะเดียวกันประเทศไทยจะต้องมีการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
 
-  สศค. วิเคราะห์ว่าตัวเลขส่งออกสินค้าล่าสุดของไทยเดือน ธ.ค. 53 ขยายตัวชะลอลงเล็กน้อย โดยขยายตัวร้อยละ 18.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากสินค้าอุตสาหกรรม ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 76.8 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดในปี 53 มีการขยายตัวชะลอลง โดยการส่งออกที่ขยายตัวลดลงนั้นสาเหตุหลักมาจากฐานการคำณวนที่เริ่มกลับเข้าสู่ระดับปรกติ ทั้งนี้ สศค. คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทยในปี 54 จะขยายตัวร้อยละ 13.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 12.2 และ 14.2

2. S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงเป็น AA- 
-  บริษัทสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของญี่ปุ่นลงสู่ระดับ 'AA-' จาก 'AA' และคงอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นที่ 'A-1+'ขณะที่แนวโน้มมีเสถียรภาพ S&P ระบุว่า การขาดดุลงบประมาณของญี่ปุ่นจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกหลายปี ซึ่งจะกระทบต่อความยืดหยุ่นทางด้านการคลังของรัฐบาลซึ่งมีสถานะอ่อนแออยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน S&P เปิดเผยว่า แนวโน้มที่มีเสถียรภาพสะท้อนมุมมองที่ว่า งบดุลต่างประเทศที่แข็งแกร่งและความยืดหยุ่นทางการเงินของญี่ปุ่นจะช่วยชดเชยแรงกดดันที่เกิดจากทางด้านการคลัง
 
-  สศค.วิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในระยะต่อไปจะยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงจากการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ซึ่งกระทบต่อภาคการส่งออก ประกอบกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงมีความเปราะบางจากภาคการจ้างงานที่ยังคงไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้คาดว่ารัฐบาลอาจต้องออกมาตรการด้านการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลต้องปรับเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 10 เพื่อลดการขาดดุลงบประมาณซึ่งในปี 2553 คาดว่าสูงประมาณร้อยละ 7.5 ของ GDP

3. ภาคการส่งออกญี่ปุ่นเดือน ธ.ค. ขยายตัวเป็นบวกเดือนที่ 2 ที่ร้อยละ 13.0
-  ภาคการส่งออกของญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค. ขยายตัวที่ระดับร้อยละ 13.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยเป็นการขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่ภาคการส่งออกของญี่ปุ่นสามารถขยายตัวได้เป็นบวกที่ร้อยละ 9.1 เป็นครั้งแรกในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การขยายตัวดังกล่าวเป็นการขยายตัวในระดับที่สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 9.3

โดยสาเหตุสำคัญของแรงขับเคลื่อนภาคการส่งออกของญี่ปุ่นมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งและเศรษฐกิจเอเซียซึ่งนำโดยจีนซึ่งส่งผลให้กำลังการซื้อสินค้าของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 53 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง

-  สศค.วิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นน่าจะมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งน่าจะมาจากภาคการส่งออกที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นมาถึงกว่าร้อยละ 9 ในช่วงปีที่ผ่านมาและอยู่ในระดับที่ 82.14 เยนต่อดอลลาร์สรอ.จะยังคงเป็นอุปสรรคต่อผู้ส่งออกในเชิงของกำไรที่ได้รับและความสามารถทางการแข่งขันด้วย

ซึ่งหากทางการญี่ปุ่นเข้ามาดูแลค่าเงินเยนให้อ่อนค่าลงน่าจะมีส่วนสนับสนุนให้ภาคการส่งออกและเศรษฐกิจญี่ปุ่นสามารถปรับตัวดีขึ้นได้มากกว่าระดับปัจจุบัน ทั้งนี้ ฝ่ายเลขาฯคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2554  จะขยายตัวร้อยละ 1.3 หรือในช่วงคาดการณ์ร้อยละ 1.2 – 1.4 ต่อปี ลดลงจากปี 53 โดยคาดว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะยังคงเผชิญกับความเสี่ยงด้านเงินฝืดและปัญหาการว่างงานต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า 

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง