เนื้อหาวันที่ : 2011-01-26 09:16:03 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1338 views

สศช.ชี้ต้นทุนโลจีสติกส์ไทยสูงเฉียด 18% ต่อจีดีพี

สศช. เผยไทยมีต้นทุนโลจีสติกส์เกือบ 18% ของจีดีพี เหตุเศรษฐกิจฟื้น ราคาน้ำมันุ่ง จี้กรมศุลกากร ก.คมนาคม เร่งศึกษาเพื่อพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน

สศช. เผยไทยมีต้นทุนโลจีสติกส์เกือบ 18% ของจีดีพี เหตุเศรษฐกิจฟื้น ราคาน้ำมันุ่ง จี้กรมศุลกากร ก.คมนาคม เร่งศึกษาเพื่อพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน

นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ (กบส.) มีมติรับทราบภาพรวมต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่าในปี 53 จะมีต้นทุนโลจิสติกส์ต่อจีดีพี อยู่ที่ระดับประมาณร้อยละ 17.9 บนสมมติฐานที่เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 7.9 เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย รวมทั้งราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ เห็นชอบให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กรมศุลกากรกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ไปร่วมกันศึกษารายละเอียดเพื่อเตรียมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงฝั่งตะวันตกกับประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ  เพื่อรองรับโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย ในสหภาพพม่า และนิคมอุตสาหกรรมที่มีพื้นที่กว่า 250 ตารางกิโลเมตร ในรูปแบบพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งใหม่ของภูมิภาค 
 
นายธราดล กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบการเตรียมความพร้อมการเปิดด่านศุลกากรและการเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราว ที่บ้านน้ำพุร้อน จ.กาญจนบุรี ซึ่ง สมช.และกระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนของไทยที่ได้รับสัมปทานในการดำเนินโครงการ สามารถเคลื่อนย้ายแรงงาน นำเครื่องจักร อุปกรณ์ในการก่อสร้างเข้าไปดำเนินการก่อสร้างได้ คาดว่าจะประกาศเปิดจุดผ่านแดนได้ภายใน 4-5 เดือน   
 
นอกจากนี้ยังให้กระทรวงคมนาคมไปดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ เป็นถนนเชื่อมโยงบางใหญ่-นครปฐม-กาญจนบุรี ระยะทาง 97 ก.ม.สร้างเป็นมอเตอร์เวย์ มี 4-6 ช่องทางเดินรถ ปัจจุบันได้ศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเสร็จแล้ว และได้สำรวจออกแบบรายละเอียดก่อสร้างแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างหาแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินการก่อสร้าง 

ซึ่งยังมีโครงการก่อสร้างเส้นทางจากกาญจนบุรี ถึงชายแดนไทย-พม่า อีก 70 ก.ม. รวมระยะทาง 167 ก.ม. อยู่ระหว่างเสนอของบประมาณปี 55 เพื่อจ้างศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม  ถนนเส้นนี้จะช่วยให้เชื่อมโยงโครงข่ายขนส่งและโลจิสติกส์ระหว่างไทยกับนิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือน้ำลึกทวาย
 
สำหรับกลไกในการบริหารจัดการที่ประชุมเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจฝั่งตะวันตกกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้คณะกรรมการ กบส. เพื่อกำหนดกรอบทิศทาง ยุทธศาสตร์ และแผนการพัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ สิ่งอำนวยความสะดวก และการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจเชื่อมโยงท่าเรือทวาย กับพื้นที่อุตสาหกรรมชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย

ที่มา     : สำนักข่าวไทย, เว็บไซต์รัฐบาลไทย