กระทรวงอุตสาหกรรม รับข้อเสนอของสภาอุตสหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน เตรียมยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมและรับมือกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้เสนอยุทธศาสตร์เชิงรุก 6 ยุทธศาสตร์ให้ภาครัฐเร่งผลักดัน เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมและการรับมือกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
อาทิ การพัฒนาอุตสาหกรรมให้อยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างยั่งยืน ทั้งในเรื่องการผลักดันการแก้ไขปัญหามาบตาพุดระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว มาตรการเชิงรุกสำหรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และการเตรียมความพร้อมสำหรับเขตการค้าเสรี(เอฟทีเอ)
รวมถึงการให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลจะประกาศลอยตัวราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ แอลพีจี ในภาคอุตสาหกรรม ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย ซึ่งจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลในเรื่องดังกล่าวต่อไป ส่วนคณะกรรมการ กกร.โดยสภาหอการค้าไทย ได้เสนอให้สนับสนุนเรื่องของธุรกิจสิ่งทอ อัญมณี และพลาสติก ซึ่งจะต้องมีการประชุมคณะทำงานย่อยเพื่อหารือในรายละเอียดต่อไป
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ได้เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้เสนอให้ชะลอการปล่อยลอยตัวราคาแอลพีจีแต่อย่างใด ซึ่งก็เห็นด้วยกับการที่จะให้ราคาแอลพีจีเป็นไปตามโครงสร้างของราคาและกลไกตลาด ขณะที่เรื่องของอัตราค่าไฟฟ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเห็นว่าไม่ควรที่จะให้ภาระตกอยู่ที่ภาคอุตสาหกรรมเพราะอาจจะทำให้ความสามารถการแข่งขันลดลง หรืออาจจะต้องเพิ่มต้นทุนการผลิตของสินค้าและบริการ
ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์