เนื้อหาวันที่ : 2011-01-24 16:11:47 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1404 views

อียูเข้มปี 54 ใช้ระเบียบการแจ้งล่วงหน้าก่อนนำเข้าสินค้า

สถาบันอาหาร เผย ปี 54 อียูงคับใช้ข้อกำหนดการแจ้งรายละเอียดสินค้าก่อนนำเข้าสินค้า ชี้เพื่อลดความเสี่ยงการนำเข้าสินค้าอันตราย

นายอมร งามมงคลรัตน์ รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร

สถาบันอาหาร เผย ปี 54 อียูงคับใช้ข้อกำหนดการแจ้งรายละเอียดสินค้าก่อนนำเข้าสินค้า ชี้เพื่อลดความเสี่ยงการนำเข้าสินค้าอันตราย

“สถาบันอาหาร” เผยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา สหภาพยุโรป (อียู) ได้บังคับใช้ข้อกำหนดการแจ้งรายละเอียดสินค้าที่จุดแรกของการนำเข้า เป็นส่วนหนึ่งของระบบควบคุมการนำเข้าแห่งสหภาพยุโรป (European Import Control Systems : ICS) เพื่อการลดความเสี่ยงในการนำเข้าสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง

นายอมร งามมงคลรัตน์ รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า สหภาพยุโรปได้เพิ่มเติมระเบียบควบคุมการนำเข้าสินค้าตามมาตรการทางศุลกากร หรือ Safety and Security Amendment ที่กำหนดให้สินค้าทุกชนิดเมื่อจะนำเข้าสหภาพยุโรปหรือส่งผ่านสหภาพยุโรปไปยังประเทศอื่นๆ ไม่ว่าทางใดก็ตามต้องแจ้งข้อมูลรายละเอียดของสินค้าทั้งหมดแก่เจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ จุดที่สินค้าเข้าเป็นที่แรก (First point) เพื่อความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554

สหภาพยุโรปมุ่งหวังให้ระบบนี้ เกิดความร่วมมือด้านความปลอดภัยในระบบขนส่งระหว่างประเทศคู่ค้า โดยมีแนวทางปฏิบัติ คือ ระบุสินค้าที่มีความเสี่ยงอันตรายสูงให้เร็วที่สุดก่อนการนำเข้า ด้วยการพิจารณาผู้ประกอบการที่มีความน่าเชื่อถือสูงในด้านความปลอดภัย และกำหนดให้แจ้งข้อมูลล่วงหน้าก่อนการนำเข้า-ส่งออก

โดยหน่วยงานศุลกากรของแต่ละประเทศสมาชิกจะแลกเปลี่ยนข้อมูลล่วงหน้าระหว่างกันผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งระบบนี้นำไปใช้ในการตรวจสอบสินค้านำเข้าของหลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา โดยผู้ประกอบการจะต้องยื่นเอกสารที่ถูกต้องและเชื่อถือได้แก่หน่วยงานด้านศุลกากร เพื่อรับการประเมินหรือวิเคราะห์ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของสินค้า หากผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตามก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้นำสินค้าขึ้นเรือขนส่งที่จะเข้า-ออกจากสหภาพยุโรปได้

ทั้งนี้ สินค้าทุกชนิดที่ผ่านเข้าสู่สหภาพยุโรปต้องแจ้งรายละเอียดสินค้า (Declaration) โดยไม่คำนึงปลายทางของสินค้า ซึ่งรวมถึงสินค้าต่อไปนี้ คือ สินค้าที่ขนส่งผ่านสหภาพยุโรปโดยไม่นำเข้ามาในพื้นที่สหภาพยุโรป, สินค้าที่ขนส่งเข้ามาโดยผ่านด่านสหภาพยุโรป และสินค้าที่ส่งผ่านจากสหภาพยุโรป (ออกจากสหภาพยุโรปหรือนำเข้ามาเพื่อส่งผ่านไปที่อื่น) โดยระยะเวลาการแจ้งล่วงหน้าของสินค้าที่ขนส่งเข้ามาในสหภาพยุโรปตามระบบใหม่ มีรายละเอียด ดังนี้

ทางเรือ (Deep sea containers) 24 ชั่วโมง ก่อน Loading,ทางเรือ (Short sea containers) 2 ชั่วโมง ก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรก, ทางเรือ (Break Bulk) 4 ชั่วโมง ก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรก,ทางเครื่องบิน (ระยะเวลาบินเกิน 4 ชั่วโมง) 4 ชั่วโมง ก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรก,ทางเครื่องบิน (ระยะเวลาบินน้อยกว่า 4 ชั่วโมง) ก่อนเครื่องบินออกเดินทาง, ทางรถไฟ หรือ ทางน้ำ (ภายในสหภาพยุโรป) 2 ชั่วโมง ก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรก,ทางถนน 1 ชั่วโมง ก่อนสินค้าเดินทางมาถึง ณ จุดแรก

สำหรับการเตรียมความพร้อมของไทย นายอมร งามมงคลรัตน์ ให้ความเห็นว่า “มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่สหภาพยุโรปนำมาช่วยในการตรวจสอบข้อมูลสินค้าล่วงหน้าให้สามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และช่วยให้ด่านนำเข้าและสำนักงานศุลกากรได้ตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงสินค้านำเข้าทุกประเภทเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์ความเสี่ยงจากสินค้าที่กำลังเดินทางมาถึง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการดำเนินการแจ้งข้อมูลล่วงหน้าอาจเพิ่มความยุ่งยากแก่ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก หรือผู้เกี่ยวข้องในระบบขนส่งสินค้าไปสหภาพยุโรป แต่สามารถให้ตัวแทนหรือ ผู้นำเข้าดำเนินการในเรื่องนี้แทนได้ ซึ่งจะช่วยลดภาระให้กับผู้ประกอบการได้

ในส่วนของประเทศไทยกรมศุลกากรได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทานการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับจากประเทศคู่ค้า ไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา เช่น จัดทำโครงการความร่วมมือกับกรมศุลกากรสหรัฐฯ ด้านมาตรการความปลอดภัยตู้ขนส่งสินค้า (Containers Security Interline: CSI) และโครงการความร่วมมือกับกรมพลังงานสหรัฐฯ ติดตั้งเครื่องมือทันสมัยในการตรวจจับอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งการปฏิบัติตามกรอบมาตรฐาน SAFE ของ WCO

ซึ่งมีหลักสำคัญ ได้แก่ การแจ้งข้อมูลล่วงหน้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ การบริหารความเสี่ยง ตรวจตราสินค้าส่งออกเพื่อป้องกันอันตราย โดยใช้การตรวจสอบที่นุ่มนวล และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทาน”