เนื้อหาวันที่ : 2011-01-24 11:20:36 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1864 views

กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า-อิเล็กฯ เร่งปรับตัวรับกฎเหล็กสหรัฐฯ

กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอเล็กทรอนิกส์ เร่งปรับตัวติดฉลากประหยัดพลังงานรับมือข้อกำหนดการติดฉลากEnergy Guide ของสหรัฐฯ คาดบังคับใช้ต้นปีนี้

กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอเล็กทรอนิกส์ เร่งปรับตัวติดฉลากประหยัดพลังงานรับมือข้อกำหนดการติดฉลากEnergy Guide ของสหรัฐฯ คาดบังคับใช้ต้นปีนี้

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือสถานการณ์การส่งออกประจำเดือนธันวาคมกับภาคเอกชนกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าตามนโยบาย Chief of Product ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางพรทิวา นาคาศัย) ได้มอบหมายให้ประธานกลุ่มสินค้าสำคัญต่างๆ ดูแลแก้ไขปัญหาร่วมกันกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดว่า

ขณะนี้ สหรัฐได้ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการติดฉลากประหยัดพลังงาน ซึ่งบังคับใช้สำหรับโทรทัศน์ที่ผลิตตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้ติดฉลาก Energy Guide บนสินค้าเพื่อระบุประมาณค่าใช้จ่ายต่อปีในการใช้พลังงาน พร้อมการเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานจากโทรทัศน์รุ่นอื่นๆ ที่มีหน้าจอขนาดเท่ากัน

อีกทั้ง สหภาพยุโรปยังได้เตรียมการที่จะออกระเบียบในลักษณะเดียวกัน สำหรับโทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องล้างจาน และเครื่องซักผ้า โดยคาดว่าจะบังคับใช้ได้ภายในต้นปี 2554 ซึ่งในเรื่องกฏ ระเบียบของสหรัฐ และสหภาพยุโรปดังกล่าว กรมฯ จะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้และรายละเอียดเกี่ยวกับข้อปฏิบัติให้กับผู้ประกอบการต่อไป

สำหรับการส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ในเดือน ม.ค.–พ.ย. 2553 มีมูลค่า 18,874 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 33.9 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐ จีน ฮ่องกง และ ออสเตรเลีย และสำหรับการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ในเดือน ม.ค.–พ.ย. 2553 มีมูลค่า 30,051 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 23.8 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว มีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน ฮ่องกง สหรัฐ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

โดยคาดว่าจะการส่งออกในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 25 และกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 21 ในปีนี้ ซึ่งการที่ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นมากนั้น ภาคเอกชนคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสแรกของปี 2554 ส่งผลให้การส่งออกในปีหน้าจะชะลอตัวลงกว่าปีนี้ โดยคาดการณ์ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าจะขยายตัวได้ประมาณร้อยละ 3-6 และอิเล็ทรอนิกส์ประมาณร้อยละ 8-12

ในการประชุมดังกล่าว ภาคเอกชนได้รายงานว่านอกจากปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากแล้ว ขณะนี้ ยังประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบและวัตถุดิบมีราคาแพงอีกด้วย อาทิ เหล็ก ทองแดง น้ำมัน เป็นต้น ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนจนทำให้วัตถุดิบขาดตลาด

นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังได้รายงานว่า บริษัท ACER ซึ่งเป็นผู้ผลิตส่วนประกอบสำหรับโทรทัศน์รายใหญ่ของโลกกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาจะย้ายฐานการผลิตมายังไทย ซึ่งหากเป็นไปได้จะส่งผลดีกับอุตสาหกรรมโทรทัศน์ของไทยอย่างมาก เนื่องจากจะทำให้การผลิตโทรทัศน์ของไทยมี Local Content เพิ่มขึ้นมาก และที่สำคัญจะทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-อินเดียได้อย่างเต็มที่

สำหรับเรื่องระบบการบริหารสินค้าที่ใช้ได้สองทางซึ่งจะกระทบกับอุตสาหกรรมดังกล่าวค่อนข้างมากเนื่องจากจะเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่ ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์อยู่ในระหว่างการจัดทำรายการสินค้าที่ใช้ได้สองทางและระบบกระบวนการออกใบอนุญาติ ซึ่งกรมฯ จะได้จัดสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าวต่อไป
 
ที่มา : กรมส่งเสริมการส่งออก