เนื้อหาวันที่ : 2011-01-24 09:51:09 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1471 views

สามารถ รุกธุรกิจใหม่ตั้งเป้า 3 ปีดันรายได้แตะ 5 หมื่นล้าน

สามารถ เปิดแผนรุกธุรกิจเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ ตั้งเป้าปี 54 รายได้โตกว่า 60% 3 ปีดันรายได้ทะลุ 5 หมื่นล้านบาท

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

กลุ่มสามารถฯ เผยแผน 3 ปี สร้างรายได้ปี 2556 ทะลุ 5 หมื่นล้านบาท ด้วยการรุกธุรกิจเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ โดยในปี 2554 ตั้งเป้ารายได้รวม 29,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 60 เปอร์เซ็นต์จากปี 53 โดยเน้นกลยุทธ์การขยายผลจากธุรกิจปัจจุบัน รวมทั้งการขยายการลงทุนในธุรกิจบริการสาธารณูปโภคอย่างจริงจัง เพื่อตอกย้ำเป้าหมายการสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Growth

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางในการดำเนินธุรกิจของ “กลุ่มบริษัทสามารถ” ว่า “บริษัทฯ มีเป้าหมายแน่ชัดที่จะสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยรายได้ประจำที่ต่อเนื่อง เราจึงไม่มองเพียงแค่ปีต่อปี แต่เป็นการวางเป้าหมายเพื่ออนาคต โดยจะเน้นการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากธุรกิจปัจจุบัน ซึ่งทุกวันนี้บริษัทในกลุ่มสามารถ ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมและกลุ่มโมบายมัลติมีเดีย ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี มีแผนธุรกิจชัดเจน และมีรายได้ประจำที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาบริษัทแม่

ดังนั้น จึงถึงเวลาที่เราจะขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ๆ อย่างจริงจัง โดยล่าสุด ครอบครัววิไลลักษณ์ก็ได้ตัดสินใจซื้อหุ้นบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คืนจากกลุ่ม AXIATA ซึ่งถือครองหุ้นเรามาตั้งแต่ปี 2540 ทั้งนี้ เมื่อบวกกับฐานะการเงินที่มั่นคงและความเชื่อถือที่สถาบันการเงินมีต่อบริษัทฯ ก็จะส่งผลให้กลุ่มสามารถฯ มีความคล่องตัวในการตัดสินใจลงทุนและการบริหารธุรกิจใหม่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับสายธุรกิจใหม่ ที่จะเป็นอนาคตของกลุ่มสามารถ คือ ธุรกิจบริการสาธารณูปโภค Utilities Services นั้น จะประกอบด้วยกิ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน, การเดินทาง และบริการสาธารณูปโภคอื่นๆ โดยได้นำเอาบริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จำกัด ผู้ให้บริการศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา บริษัท กัมปอต เพาเวอร์แพลนท์ จำกัด โรงงานผลิตไฟฟ้าที่ประเทศกัมพูชา บริษัท สุวรรณภูมิเอ็นไวรอนเมนท์ แคร์ จำกัด ผู้ให้บริการกำจัดขยะที่สนามบินสุวรรณภูมิ และ บริษัท สามารถ เรดิเทค จำกัด เข้ามารวมไว้ในสายธุรกิจนี้ด้วย

ทั้งนี้ บริษัทฯได้ว่าจ้างผู้บริหารมืออาชีพที่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีเฉพาะทางเข้ามาเสริมทัพอย่างเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อให้การลงทุนในธุรกิจใหม่นี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น บริษัทฯ กำลังพิจารณาถึงกลยุทธ์การควบรวมกิจการ Merging & Acquisition ซึ่งนอกจากจะส่งผลต่อความรวดเร็วในการเข้าสู่ธุรกิจแล้ว ยังจะก่อให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ Knowledge transfer และสร้างทีมงานมืออาชีพ The Professional ในกลุ่มสามารถฯ ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดหมายรายได้รวมของกลุ่มสามารถฯ ในปี 25

56 ไว้ที่ 50,000 ล้านบาท โดยจะมาจากธุรกิจ ICT 15,000 ล้านบาท ธุรกิจ Mobile multimedia 20,000 ล้านบาท ธุรกิจ Utilities Services 12,000 ล้านบาท และธุรกิจอื่นๆ 3,000 ล้านบาท

สำหรับปี 2554 บริษัทฯ ยังคงเน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่องสู่ความยั่งยืน 2011 On Course…Towards Sustainable Growth โดยตั้งเป้ารายได้รวม 29,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน โดยมีรายละเอียดแยกตามสายธุรกิจ ดังนี้

สายธุรกิจ Mobile Multimedia ปี 54 ตั้งเป้ารายได้ที่ 10,000 ล้านบาท เติบโต 20 เปอร์เซนต์ โดยตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ที่ 3.5 ล้านเครื่อง เน้นการพัฒนา Application บนเครื่องโทรศัพท์ i-Mobile อาทิ iMM Chat ร่วมกับ Operator ทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างรายได้ที่ต่อเนื่อง ด้านธุรกิจคอนเทนต์มุ่งเน้นการเป็นผู้นำการให้บริการคอนเทนต์ 3G

โดยจะมีการพัฒนารูปแบบคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่เน้นไป ไปที่กลุ่มบริการเนื้อหาข้อมูล โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการพัฒนาบริการเสริมบนโครงข่ายการให้บริการ 3G อาทิ บริการ Video Call Center เพื่อรองรับผู้ใช้บริการ i-Mobile 3GX (MVNO) ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการกว่า 150,000 ราย และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5- 6 แสนราย โดยล่าสุดมีการเปิดตัวบริการ Blackberry บนโครงข่าย 3G ด้วยแพ็คเกจเหมาจ่ายทั้งบริการ Data และ Voice ในราคาเพียง 650 บาท

สายธุรกิจ ICT Solutions ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2554 ไว้ที่ 16,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการสร้างสถิติการเติบโตของรายได้สูงสุดถึงเกือบ 200 เปอร์เซนต์ เพราะนอกจากงานในมือมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาทแล้ว ยังมีโครงการใหญ่ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจและอยู่ระหว่างรอการประมูล คือ โครงการวางระบบเครือข่าย 3G มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาทของทีโอที งาน Next Generation Networks หรือ NGN มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาทของทีโอที

งานพัฒนาระบบสารสนเทศมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทของกรมที่ดิน งานโครงการอีกกว่า 5 พันล้านบาทในการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงงานโครงการอื่นๆ ในสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าราว 3 พันล้านบาท บริษัทฯ จึงมีความมั่นใจอย่างสูงว่าปี 2554 จะเป็นปีที่กลุ่มสามารถเทลคอมฯ จะประสบความสำเร็จอย่างสูงในเชิงรายได้และกำไร

สายธุรกิจ Related Businesses ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 2,000 ล้านบาท จากบริษัท วันทูวันคอนแทคส์ จำกัด บริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด และ บริษัท วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด

ส่วนธุรกิจ Utilities Services ตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2554 ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โดยจะมาจากบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด บริษัท กัมปอต เพาเวอร์แพลนท์ จำกัด และบริษัท สุวรรณภูมิ เอ็นไวรอนเม้นท์ แคร์ จำกัด นอกนั้นจะมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ราว 1 พันล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้ประจำเพิ่มขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

 นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้ายถึงผลการดำเนินงานในปี 2553 ที่ผ่านมาว่า “แม้ในปีที่ผ่านมาสภาวะโดยรวมของเศรษฐกิจในประเทศ จะได้รับผลกระทบในทางลบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองบ้าง แต่ผลการดำเนินการของ “กลุ่มบริษัทสามารถ” ยังอยู่ในระดับที่ดี คาดว่าปี 53 จะมีรายได้รวมประมาณ 18,000 ล้านบาท และมีผลกำไรที่น่าพึงพอใจ ที่สำคัญในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเร่งพัฒนาองค์กรเต็มรูปแบบ ทั้งการพัฒนาทีมงานและสร้างมืออาชีพรุ่นใหม่ ทำให้มั่นใจว่า “กลุ่มบริษัทสามารถ” จะยังคงรักษาอัตราการเติบโตและมีผลกำไรจากการลงทุน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในทุกๆด้าน”

“กลุ่มบริษัทสามารถ” มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างครบวงจร ภายใต้บริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท และมี 3 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)