พรทิวา เผยตัวเลขยอดส่งออกเดือนธ.ค. ปี 53 เพิ่มขึ้น 18.8% มูลค่ากว่า 17 พันล้านดอลลาร์ ดันยอดส่งออกทั้งปีโตถึง 28.1 มูลค่ารวมเฉียด 2 แสนล้านดอลลาร์ เกินเป้าที่ตั้งไว้ 20%
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
พรทิวา เผยตัวเลขยอดส่งออกเดือนธ.ค. ปี 53 เพิ่มขึ้น 18.8% มูลค่ากว่า 17 พันล้านดอลลาร์ ดันยอดส่งออกทั้งปีโตถึง 28.1 มูลค่ารวมเฉียด 2 แสนล้านดอลลาร์ เกินเป้าที่ตั้งไว้ 20%
กระทรวงพาณิชย์ ระบุ ยอดส่งออกเดือนธันวาคม ปี 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.8 มีมูลค่า 17,372 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลการส่งออกให้ทั้งปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.1 มูลค่ารวม 195,311 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เกินเป้าที่ตั้งไว้ร้อยละ 20 ขณะที่ ปี 2554 ตั้งเป้าส่งออกขยายตัวที่ร้อยละ 10
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการส่งออกเดือนธันวาคม ปี2553 ว่า มีมูลค่า 17,372.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.8 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 16,077.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 ทำให้เกินดุลการค้ามูลค่า 1,295.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ส่งผลให้ทั้งปีที่ผ่านมาการส่งออกมีมูลค่า 195,311.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.1 และการนำเข้า มีมูลค่า 182,406.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.5 ส่งผลให้เกินดุลการค้ามูลค่า 12,905.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเติบโตเกินเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ล่าสุดที่ร้อยละ 20 โดยเป็นผลมาจากความต้องการในตลาดโลกฟื้นตัวมากขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ซื้อในต่างประเทศเริ่มกลับมาซื้อกันมากขึ้น ทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม
ขณะเดียวกัน ผลสำเร็จของข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะจีน อินเดีย และอาเซียน รวมถึงผลจากมาตรการเร่งรัดผลักดันการส่งออกร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนทำให้การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในปี 2554 กระทรวงพาณิชย์กำหนดเป้าหมายการส่งออกในอัตราเติบโตร้อยละ 10 หรือมีมูลค่า 195.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเทียบเป็นเงินบาทประมาณ 6.6-6.8 ล้านล้านบาท จากการหารือเบื้องต้นกับภาคเอกชนเชื่อว่าในไตรมาสแรกปีนี้น่าจะทำได้ถึงร้อยละ 11 ภายใต้อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งแข็งค่ากว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งเฉลี่ยที่ 31.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
โดยกระทรวงพาณิชย์จะเน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกในตลาดที่มีศักยภาพมากขึ้น เช่น อาเซียน จีน อินเดีย อย่างไรก็ตาม การส่งออกในปีนี้ยังต้องระวังปัจจัยเสี่ยงจากค่าเงินบาท ที่อาจจะแข็งค่าขึ้น และราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น อาจจะส่งผลทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
ที่มา : เว็บไซต์รัฐบาลไทย