วรรณรัตน์ เผยเตรียมเสนอแก้กฎหมายปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 สนองนโยบายพยุงราคาแอลพีจี ดีเซล ระบุวงเงินคงเหลือพยุงราคาดีเซลได้เพียงหนึ่งเดือน
วรรณรัตน์ เผยเตรียมเสนอแก้กฎหมายปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 สนองนโยบายพยุงราคาแอลพีจี ดีเซล ระบุวงเงินคงเหลือพยุงราคาดีเซลได้เพียงหนึ่งเดือน
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดจะนำเงินค่าภาคหลวงปิโตรเลียมมาใช้ชดเชยราคาก๊าซแอลพีจี นั้น จะต้องมีการแก้ พระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ.2514 ซึ่งกฎหมายเดิมกำหนดให้แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.การเก็บค่าภาคหลวงปิโตรเลียม 2.ภาษีเงินได้นิติบุคคล และ 3. ภาษีพิเศษ ที่จัดเก็บเป็นอัตราก้าวหน้าตามปริมาณการผลิตปิโตรเลียม โดยเงินทั้ง 3 ส่วนนี้กฎหมายกำหนดให้ค่าภาคหลวงที่เก็บได้ต้องส่งเงินเข้าคลังทั้งหมด
ดังนั้น การจะนำมาชดเชยราคาแอลพีจี จะต้องมีการแก้กฎหมาย โดยมี 2 แนวทาง คือ ออกร่างกฎหมายใหม่ หรือแก้ไขฉบับเดิม ซึ่งการออกกฎหมายใหม่ต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่การแก้กฎหมายจะมีความสะดวกมากกว่า
ทั้งนี้ ระหว่างที่ต้องใช้เวลาแก้กฎหมายปิโตรเลียมจะให้กระทรวงการคลังตั้งงบประมาณแผ่นดิน เพื่อนำเงินส่วนนี้มาใช้ชดเชยราคาแอลพีจี เริ่มตั้งแต่งบประมาณปี 2555 หรือวันที่ 1 ตุลาคม 2554 และหลังแก้กฎหมายแล้วเสร็จ จึงจะนำเงินจากค่าภาคหลวงปิโตรเลียมมาคืนให้กับกระทรวงการคลัง โดยปัจจุบัน ค่าภาคหลวงมีการจัดเก็บเข้ารัฐประมาณปีละ 40,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การแก้กฎหมายเดิมจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้เสนอ ครม. พิจารณา และอนุมัติในหลักการ หลังจากนั้นจึงส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้ร่างกฎหมาย เมื่อร่างเสร็จจะส่งมาให้หน่วยงานตรวจอีกครั้งหนึ่ง และนำส่ง ครม. อนุมัติอีกรอบ ก่อนที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นขั้นตอนสุดท้าย
นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เม็ดเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) อนุมัติในวงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อพยุงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้มีราคาเกิน 30 บาทต่อลิตร ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ยังมีเงินคงเหลือ 3,759 ล้านบาท
หากราคาน้ำมันตลาดโลกทรงตัวอยู่ในระดับ 92-93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะสามารถชดเชยราคาน้ำมันดีเซลไปได้อีก 1 เดือน แต่หากราคาน้ำมันตลาดโลกสูงกว่านี้คงไม่สามารถพยุงราคาได้ถึง 1 เดือน ดังนั้น เมื่อวงเงินดังกล่าวนี้ถูกนำมาใช้ชดเชยราคาจนหมด กระทรวงพลังงานจะต้องหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อหามาตรการอื่นในการช่วยพยุงราคาดีเซลแทน.
ที่มา : สำนักข่าวไทย
ผู้เสนอ : กลุ่มวิเคราะห์ข่าวและฐานข้อมูล สำนักโฆษก
ที่มา : เว็บไซต์รัฐบาลไทย