เนื้อหาวันที่ : 2011-01-11 10:42:57 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2191 views

พฤกษา เตรียมเปิดโครงการใหม่ 78 โครการต้อนรับปีกระต่าย

พฤกษา มั่นใจปี 54 ตลาดอสังหาฯ เติบโตต่อเนื่อง ประกาศแผนธุรกิจเตรียมเปิด 78 โครงการใหม่ชูกลยุทธ์ “Yes, we care” ดันเป้ายอดจองเพิ่มขึ้นเฉียด 50%

พฤกษา มั่นใจปี 54 ตลาดอสังหาฯ เติบโตต่อเนื่อง ประกาศแผนธุรกิจเตรียมเปิด 78 โครงการใหม่ชูกลยุทธ์ “Yes, we care” ดันเป้ายอดจองเพิ่มขึ้นเฉียด 50%

พฤกษา เชื่อมั่นตลาดอสังหาฯ เติบโตต่อเนื่อง ประกาศแผนธุรกิจตั้งเป้ายอดจอง เพิ่มขึ้น 45% จากเป้าปี 2553 เป็น 42,000 ล้านบาท และยอดโอน 32,000 ล้านบาท พร้อมกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด Yes, we care ดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม เพื่อเป็นผู้นำอย่างยั่งยืนในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) แถลงถึงแผนธุรกิจปี 2554 ว่า “ปีนี้บริษัทฯ ได้กำหนดเป้ายอดจองที่ 42,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายยอดจองที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม

โดยในปี 2553 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ทำยอดจองได้สูงถึง 38,753 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 29,000 ล้านบาท ถึง 34% และเติบโตจากยอดจองปี 2552 ถึง 70% และในปีนี้ได้กำหนดเป้ายอดโอนที่ 32,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดโอนปีที่แล้ว 37%

โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถทำยอดโอนได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 24,000 ล้านบาท ถือได้ว่าปี 2553 เป็นปีที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จทั้งในด้านยอดจองและยอดโอนอย่างสูง และในปี 2554 นี้จึงได้ปรับเป้าหมายยอดจองและยอดโอนเพิ่มขึ้น ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางแผนเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องรวมทั้งสิ้น 78 โครงการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชีย”

“นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทฯ ได้ประกาศกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ Yes, we care ซึ่งมุ่งเน้นการดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ทั้งลูกค้า พนักงาน ชุมชน สังคม และผู้ถือหุ้น เพื่อให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยจะพัฒนาและใส่ใจในทุกด้านเพิ่มมากขึ้น ประกอบด้วย

-  ด้านสินค้า (Innovative Products) ดำเนินโครงการบ้านต้นแบบ และโครงการ CEO Award เพื่อกระตุ้นและปลูกจิตสำนึกให้พนักงานมีส่วนร่วมในการปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ ด้าน เพื่อให้ได้สินค้าและบริการที่ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด มีรูปแบบที่สวยงามและมีราคาเหมาะสม

-  ด้านบริการ (Proactive Caring Services) เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ Pruksa Contact Center 1739 รวมทั้งมีการนำสื่อดิจิตอลที่ทันสมัยมาสนับสนุนงานขายและงานตลาด เน้นการให้บริการแบบ self-service อาทิ Pruksa Application on Mobile, e-Selling Tool on iPad, On-line Booking เป็นต้น

- ด้านเทคโนโลยี (State-of-the-art Technology) ขยายโรงงานพฤกษา พรีคาสท์ เพื่อเพิ่มกำลังผลิตแผ่นคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป โดยใช้เครื่องจักรอัตโนมัติและระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมการผลิตในทุกขั้นตอน (Fully-Automated Carousel System) เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และลดปริมาณเศษวัสดุและขยะที่เกิดจากการก่อสร้าง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัยที่สุดจากเยอรมัน โดยพฤกษาเป็นผู้นำในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่นำเทคโนโลยีนี้มาใช้

-  ด้านบุคลากร (Certified People) จัดตั้ง Pruksa School เพื่อจัดฝึกอบรมด้านต่างๆ แก่พนักงานทุกระดับ เพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้รองรับกับการเติบโตของธุรกิจ และปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กร “Pruksa Culture” เพื่อให้พนักงานยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการทำงาน โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

-  ด้านชุมชนและสังคม (Green Social Responsibility) เข้าร่วมโครงการ Green Ocean Strategy (กลยุทธ์น่านน้ำสีเขียว) ประกอบด้วย กลยุทธ์การกำกับดูแลองค์กรด้วยธรรมาภิบาลสีเขียว (Green Governance) และ กลยุทธ์การสร้างเสริมบุคลากรในองค์กรด้วยอุปนิสัยสีเขียว (Green Habits) เพื่อเป็นองค์กรต้นแบบที่มีผลงานการดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน และเพื่อให้องค์กรเติบโตควบคู่ไปชุมชมและสังคมอย่างยั่งยืน” นายทองมา กล่าว

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการเปิดโครงการใหม่ปี 2554 ว่า “ในปีนี้ พฤกษา จะหันมารุกตลาดแนวราบมากขึ้น ซึ่งเป็นตลาดที่พฤกษามีความชำนาญและมีมาร์เก็ตแชร์สูง โดยวางแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 78 โครงการ มูลค่าประมาณ 54,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ 42 โครงการ บ้านเดี่ยว 17 โครงการ คอนโดมิเนียม 15 โครงการ และโครงการในต่างประเทศอีก 4 โครงการ”

“โครงการใหม่ทั้ง 78 โครงการ จะครอบคลุมทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในจังหวัดที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง เช่น ขอนแก่น ซึ่งในปีที่ผ่านมาพฤกษา ก็ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัด อย่างเช่นอยุธยา ชลบุรี และภูเก็ต มาแล้ว

สำหรับโครงการในต่างประเทศ บริษัทฯ ได้วางแผนเปิดโครงการในประเทศอินเดีย 3 โครงการ คือ ที่เมืองบังกาลอร์ ซึ่งจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในไตรมาสแรกนี้ และอีก 2 โครงการที่เมืองมุมไบ และเมืองเชนไน ในไตรมาส 3 และ 4 ลำดับ นอกจากนี้ ยังมีที่เมืองไฮฟง ประเทศเวียดนามอีก 1 โครงการ ที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีนี้เช่นกัน” นายประเสริฐ กล่าวเสริม