จีนกระชับความสัมพันธ์สองฝั่ง ผ่านข้อตกลงECFA ช่วยเศรษฐกิจไต้หวัน เปิดเสรีสินค้ากว่าแปดร้อยรายการ ภาคเกษตรเฮ ภาษีลดกว่าครึ่ง
จีนกระชับความสัมพันธ์สองฝั่ง ผ่านข้อตกลงECFA ช่วยเศรษฐกิจไต้หวัน เปิดเสรีสินค้ากว่าแปดร้อยรายการ ภาคเกษตรเฮ ภาษีลดกว่าครึ่ง
หลังพรรคก๊กหมิงตั๋งพ่ายแพ้ต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนและอพยพมาตั้งการปกครองบนเกาะไต้หวันตั้งแต่ปี ๒๔๘๘ ปัจจุบันความสัมพันธ์จีน-ไต้หวันมีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายมีการจัดตั้งกลไกการเจรจาตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ และมีการจัดประชุมร่วมสองฝ่ายปีละ ๒ ครั้ง
โดยที่ผ่านมาทั้งสองฝั่งมีการเซ็นสัญญาความร่วมมือไปแล้ว ๑๕ ฉบับ ครอบคลุมความร่วมมือต่างๆ เช่น การลงทุน การค้า การแก้ปัญหาความขัดแย้ง ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ฯลฯ และในอนาคตยังมีแผนเพิ่มความร่วมมือด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรม วัฒนธรรมการศึกษา การพยากรณ์อากาศ นอกจากนี้ทั้งสองฝั่งยังมีแผนจัดตั้งคณะกรรมการร่วมมือทางเศรษฐกิจของสองฝั่งขึ้น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น
จีนและไต้หวันได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจช่องแคบไต้หวัน (Economic Cooperation Framework Agreement – ECFA) เมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๓ โดยข้อตกลงดังกล่าวกำหนดที่จะให้มีการลดภาษีระหว่างกันเป็นศูนย์ภายใน ๒-๓ ปี (๒๕๕๔-๒๕๕๖) ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวสินค้าที่จะเปิดเสรีมี ๘๐๖ รายการ เป็นสินค้าไต้หวัน ๕๓๙ รายการ สินค้าจีน ๒๖๗ รายการ
ครอบคลุมสินค้าหลายประเภทเช่น สินค้าเกษตร (ปลามีชีวิต ปลาและเนื้อปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง ดอกกล้วยไม้ เห็ดทรัฟเฟิล เห็ดเข็มทอง กล้วย ส้ม มะนาว แตงแคนตาลูพ แก้วมังกร ชมพู่ และใบชา) สินค้าปิโตรเคมี เครื่องจักรกลและชิ้นส่วน สิ่งทอ ยานพาหนะและชิ้นส่วน ฯลฯ ล่าสุด ๒๙ ธ.ค. ๕๓ ที่ผ่านมา
โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวัน ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายYang Yi ได้เปิดเผยว่า ข้อตกลง ECFA ที่ได้เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓ จะทำให้สินค้าสินค้าเกษตรไต้หวันที่ส่งออกมาจีนส่วนใหญ่มีอัตราภาษีนำเข้าลดลงจากร้อยละ ๑๐ เหลือร้อยละ ๕ ภายในปี ๒๕๕๔ เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรไต้หวัน และสามารถสร้างส่วนลดด้านภาษีให้แก่ผู้ส่งออกไต้หวันคิดเป็นมูลค่าประมาณ ๔.๗๒ ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้กระทรวงการคลังไต้หวันก็ได้เปิดเผยว่า ผลจากการลงนามข้อตกลง ECFA ในส่วนของสินค้าไต้หวัน จะส่งผลดีต่อผู้ส่งออกไต้หวันคิดเป็นมูลค่ารวมสูงถึง ๒๙,๕๐๐ ล้านเหรียญไต้หวัน ในขณะที่การลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% สำหรับสินค้าจีนจำนวน ๒๖๗ รายการนั้น จะทำให้ไต้หวันเก็บภาษีนำเข้าได้ลดลงเพียงประมาณ ๓,๔๐๐ ล้านเหรียญไต้หวันเท่านั้น
ความร่วมมือทางเศรษฐกิจจีน-ไต้หวันดังกล่าว ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรไทยมายังจีน เนื่องจากเป็นสินค้าคนละประเภทกัน แต่น่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของภาคธุรกิจบริการ เนื่องจากข้อตกลงในครั้งนี้ได้ครอบคลุมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานบริการไว้หลายอย่างที่อนุญาตให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ก่อตั้งขึ้นตามกฏหมายของไต้หวันสามารถไปจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในจีนได้โดยไม่ต้องมีผู้ถือหุ้นชาวจีน