รายงานข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 54 คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)ได้ประชุมหารือประเด็นแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง โดยชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลของผู้ค้าน้ำมันในประเทศไม่ให้สูงเกิน 30 บาท/ลิตร ด้วยการใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาบริหารจัดการนำเงินจากกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนทั้งน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B3 และ B5 เพิ่มอีก 0.50 บาท/ลิตร
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2554 ว่า ที่ประชุม กบง. ได้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพงโดยเห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B3 และ B5 ลง 0.50 บาท/ลิตร ทำให้ B3 ได้รับการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันฯ จากเดิม 0.35 บาท/ลิตร เพิ่มเป็น 0.85 บาท/ลิตร
ส่วน B5 เดิมได้รับการอุดหนุน 1บาท/ลิตรก็เพิ่มเป็น 1.50 บาทต่อลิตร เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่สูงเกิน 30 บาท/ลิตร ซึ่งจะส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีสภาพคล่องลดลงจากติดลบ 1,257 ล้านบาท/เดือน เป็น ติดลบ 1,977 ล้านบาท/เดือน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกในปัจจุบันยังปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องส่งผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นตามทั้งน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล น้ำมันดีเซลหมุนเร็วทั้ง B3 และ B5 โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล B3 ราคาขายปลีกในปัจจุบันอยู่ที่ 29.99 บาท/ลิตร และ B5 อยู่ที่ 29.59 บาท/ลิตร
แต่เนื่องจากค่าการตลาดของ B3 อยู่ที่ 1.0239 บาท/ลิตร และ B5 อยู่ที่ 1.0217 บาท/ลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำอาจทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วปรับขึ้นเกิน 30 บาท/ลิตรได้ กบง. จึงพิจารณานำเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปชดเชยราคาขายปลีกให้กับ B3 และB5 ดังกล่าวเพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญด้านการขนส่งและค่าครองชีพของประชาชน
ที่มา : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
Thailandindustrycom_official
