เนื้อหาวันที่ : 2011-01-05 10:04:11 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 737 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 5 ม.ค. 2554

1. ก.พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อเดือนธ.ค. 53 สูงขึ้นร้อยละ 3.0 ต่อปี ทั้งปี 53 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 ต่อปี

-  ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ธ.ค.53 เท่ากับ 108.92 หรือขยายตัวร้อยละ 3.0 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. 53 ที่อยู่ที่ร้อยละ 2.8 ต่อปี ในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานอยู่ที่ระดับ 104.21 ขยายตัวร้อยละ  1.4 ต่อปี สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคเฉลี่ยทั้งปี 53 ขยายตัวร้อยละ 3.3 ต่อปี

-  สศค.วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือน ธ.ค. 53 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.16 จากเดือนก่อนหน้า โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 1) ดัชนีราคาสินค้าในหมวดยานพาหนะและน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.48 ต่อเดือน 2) ดัชนีราคาในหมวดข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.43 ต่อเดือน ไข่ไก่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.28 ต่อเดือน เครื่องประกอบอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.42 ต่อเดือน เป็นต้น

เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ สศค. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 54 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.0 – 4.5 ต่อปี) โดยมีแรงกดดันที่สำคัญจากราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในปี 54 และราคาสินค้าเกษตรในประเทศที่อาจเร่งตัวขึ้น

2. HSBC คาดเศรษฐกิจไทยปี 54 ขยายตัวร้อยละ 5.3 ต่อปี

-  ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย (HSBC)  กล่าวว่า  แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 54 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 5.3 ต่อปี โดยมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 3.8 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเพิ่มขึ้นสูงกว่าร้อยละ 2.5  จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับร้อยละ 2 ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามแรงส่งจากเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4 ปี 53 ที่ดีมาก รวมทั้งความมั่นใจของตลาดดีขึ้นและเสถียรภาพทางการเมืองมีแนวโน้มที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ

-  สศค.วิเคราะห์ว่า จากการคาดการณ์ล่าสุดของ สศค. ณ เดือนธ.ค.53เศรษฐกิจไทยในปี 54 จะสามารถเติบโตได้ที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี (ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 4.0-5.0 ต่อปี)   ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนที่สำคัญจากการจับจ่ายภายในประเทศที่ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากปี 53  ตามภาวะการจ้างงานที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี

และจากรายได้ของเกษตรกรที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้น จากราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ยังคงทรงตัวในระดับสูง ประกอบกับการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและเงินเดือนข้าราชการที่จะมีผลในเดือนเม.ย. 54 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงมีความเสี่ยงจากความเปราะบางของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 52.3 ของ  GDP

3. ดัชนีภาคอุตฯ สหรัฐฯเดือน ธ.ค.53 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57 จุด

-  เว็บไซด์บลูเบิร์กดอทคอมระบุว่า ดัชนีภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค.53 อยู่ที่ 57 จุดสูงสุดในรอบ 7 เดือนจาก 56.6 จุดในเดือนก่อนหน้า ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของ เศรษฐกิจสหรัฐฯมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งได้รับผลดีมาจากการขยายตัวของความต้องการในประเทศ และความต้องการนำเข้าจากประเทศคู่ค้า

-  สศค. วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีจากการผลิตที่ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนได้จากการส่งออกที่ขยายตัวได้ดี ในเดือน พ.ย.53 ขยายตัวร้อยละ 0.4 ต่อปีขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ในขณะที่ ดัชนีภาคอุตสาหกรรมในเดือน ธ.ค.53ขยายตัวที่ 57 จุด เดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 56.6 จุดในโดยเฉพาะสินค้า Hard disk drive เป็นสำคัญ

อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานในประเทศยังอยู่ในระดับสูงที่ ร้อยละ 9.8 ต่อปี รัฐบาลสหรัฐฯจึงจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องเห็นได้จากมาตราการQuantitative Easing (QE2) เพื่อเพิ่มวงเงินอีก 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ สศค.คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐ 54 จะขยายตัวร้อยละ 2.7 ต่อปี (ประมาณการ ณ เดือน ธ.ค. 53)

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง