พพ. เฮ! หลังรัฐเปิดไฟเขียวส่งเสริม Adder เพิ่มในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หวังกระตุ้นเอกชนสนใจลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ชี้เป็นพื้นที่พิเศษมีศักยภาพสูง
พพ. หวังกระตุ้นผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ลงทุนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และจ.สงขลาเพิ่มในปี 54 หลังรัฐไฟเขียวส่งเสริม Adder เพิ่มในพื้นที่ 4 อำเภอในจ.สงขลา อีก 1 บาทต่อหน่วย ชี้พลังงานชีวมวลในพื้นที่พิเศษมีศักยภาพสูงเหมาะกับการลงทุน
นายทวารัฐ สูตะบุตร รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พพ.ได้รับรายงานข้อมูลศักยภาพชีวมวลของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และในพื้นที่4 อำเภอของจ.สงขลา (จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี) พบว่าพื้นที่ชายแดนใต้ดังกล่าวมีศักยภาพของพลังงานชีวมวลสูงมาก
โดยเฉพาะข้าว ปาล์ม มะพร้าว และไม้ยางพารา โดยขณะนี้ พพ.จึงขอส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการหรือนักลงทุนที่สนใจ เข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในพื้นที่ทั้งหมดดังกล่าว ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบของข้อจำกัดด้านปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่
ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า จ.ยะลามีศักยภาพแกลบอยู่ประมาณ 2,400 ตัน ฟางข้าว 6,500 มะพร้าว 3,900 ตัน และไม้ยางพารา 25,000 ตัน จ.ปัตตานี มีศักยภาพแกลบประมาณ 8,900 ตัน ฟางข้าว 24,000 ตัน มะพร้าว 1,800 ตัน และไม้ยางพารา 25,000 ตัน
จ.นราธิวาส มีศักยภาพแกลบประมาณ 4,200 ตัน ฟางข้าว 11,000 ตัน มะพร้าว 20,000 ตัน และไม้ยางพารา 25,000 ตัน และใน 4 อำเภอของจ.สงขลา มีศักยภาพแกลบประมาณ 25,000 ฟางข้าว 67,000 มะพร้าว 7,000 ตัน และไม้ยางพารา 32,000 ตัน
นอกจากนี้ ด้านมาตรการจูงใจ พบว่า กระทรวงพลังงานมีมติเห็นชอบจากการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน โดยได้พิจารณาให้ส่วนเพิ่มรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้แก่ ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กมาก(VSPP) เพิ่มเติมในพื้นที่ 4 อำเภอของจ.สงขลา
โดยได้กำหนดส่วนเพิ่มสำหรับโครงการจากพลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีก 1.50 บาทต่อหน่วย และจากเชื้อเพลิง ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ พลังน้ำ และขยะ เพิ่มขึ้นอีก 1 บาทต่อหน่วย เช่นเดียวกับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจ ให้แก่ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพลังงานชีวมวล ซึ่งในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลาดังกล่าว พบว่ามีศักยภาพสูงเหมาะกับการลงทุนอย่างยิ่ง
นายทวารัฐ กล่าวเพิ่มว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเข้าไปลงทุนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพียง 4 ราย ได้แก่ ผู้ประกอบที่ผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล บริษัท กัลฟ์ ยะลา กรีน จำกัด บริษัท ปัตตานี เอสโก จำกัด บริษัท ยะลากรีนเอ็นเนอร์ยี จำกัด และผู้ประกอบการที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท พาวเวอร์ เทคโนโลยี อินเตอร์เนชั่นแนล
โดย พพ. คาดหวังว่าในปีใหม่ 2554 นี้ น่าจะมีผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนในพื้นที่พิเศษดังกล่าวมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการช่วยลงทุนในพื้นที่และเป็นการช่วยจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างเป็นระบบ เสริมความมั่นคงด้านพลังงานในพื้นที่ได้ รวมทั้งอาจจะช่วยลดความรุนแรงในพื้นที่ดังกล่าวได้ในอนาคตต่อไป