เนื้อหาวันที่ : 2010-12-17 09:43:45 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 690 views

เตือนผู้ส่งออก TV ไมโครเวฟไปจีนต้องติดฉลาดประหยัดพลังงาน

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าคณะกรรมาธิการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (National Development and Reform Commission) และสำนักงานควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคแห่งชาติจีน (General Administration of Quality Supervision, Inspection and Quarantine of The PRC: AQSIQ) ร่วมกันกำหนดมาตรฐานบังคับสำหรับผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าโทรทัศน์จอแบนและเตาไมโครเวฟที่ใช้ในครัวเรือน โดยต้องติดฉลากประหยัดพลังงานบนผลิตภัณฑ์ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้


๑. โทรทัศน์จอแบน : แบ่งประสิทธิภาพการใช้พลังงานออกเป็น ๓ ระดับคือ ระดับที่ ๑ ประหยัดพลังงานมากที่สุด ระดับที่ ๒ : ผ่านมาตรฐานประหยัดพลังงานขั้นต่ำสุด และระดับที่ ๓ : ประหยัดไฟน้อยแต่อยู่ในระดับอนุโลมให้จำหน่ายได้ (ดังรูป) ดังนั้น โทรทัศน์จอแบนที่จะสามารถจำหน่ายในตลาดจีนได้ จะต้องผ่านมาตรฐานระดับที่ ๓ เป็นอย่างต่ำ ตามมาตรฐานบังคับที่ GB ๒๔๘๕๐-๒๐๑๐
๒. เตาไมโครเวฟ : แบ่งประสิทธิภาพการใช้พลังงานออกเป็น ๕ ระดับ เรียงตาม


การประหยัดพลังงานจากมากไปน้อย ได้แก่ ระดับที่ ๑ ประหยัดพลังงานมากที่สุดสูงถึงร้อยละ ๖๒ ไปจนถึงระดับที่ ๕ คือประหยัดพลังงานน้อยที่สุด (ดังรูป) ดังนั้น ไมโครเวฟที่ใช้ในครัวเรือนที่จะสามารถจำหน่ายในตลาดจีน จะต้องผ่านมาตรฐานระดับที่ ๕ เป็นอย่างต่ำ โดยต้องเป็นไปตามมาตรฐานบังคับที่ GB ๒๔๘๔๙-๒๐๑๐


ทั้งนี้ ระเบียบฉลากประหยัดพลังงานดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๕ โดยกำหนดให้เริ่มใช้กับสินค้าที่ผลิตใหม่ตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ เป็นต้นไป สำหรับสินค้าที่ผลิตและนำเข้าก่อนวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ อนุโลมให้ทยอยติดเครื่องหมายให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๕๕


นายสุรศักดิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าไทยส่งออกสินค้าโทรทัศน์และไมโครเวฟไปประเทศจีนโดยเฉลี่ย (๒๕๕๐ – ๒๕๕๒) มูลค่า ๓๒๓ ล้านบาทต่อปี สำหรับปี ๒๕๕๓ (ม.ค.- ต.ค.) ส่งออกมูลค่า ๒๓๑ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ ๓๕ ดังนั้น ผู้ผลิตไทยจึงควรเตรียมความพร้อมในการจัดทำฉลากประหยัดพลังงานแบบใหม่ สำหรับสินค้าเครื่องรับโทรทัศน์จอแบนและไมโครเวฟที่จะผลิตเพื่อส่งออกไปประเทศจีนให้สอดคล้องตามมาตรฐานบังคับดังกล่าวด้วย


ที่มา : สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู