เนื้อหาวันที่ : 2010-12-16 15:47:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2279 views

ครูซ ใหม่ปลุกทุกปฏิกิริยาตอบสนอง

จีเอ็มและเชฟโรเลต ประเทศไทย เปิดตัว เชฟโรเลต ครูซ ตอบสนองทุกความต้องการด้วยขุมพลังขับเคลื่อนที่เหนือชั้นทั้ง 3 รุ่น และอัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน


เชฟโรเลต ครูซ ปรากฎการณ์ใหม่ ปลุกทุกปฏิกิริยาตอบสนองด้วย 3 ขุมพลัง พร้อมอ็อปชั่นเต็มพิกัด แรงเหนือชั้นด้วยแรงบิดมหาศาลจากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบในรุ่นสูงสุด ก้าวไปอีกระดับกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด วางเป้าจำหน่ายถึงสิ้นปีหน้ามากกว่า 10,000 คัน เผยราคาช่วงแนะนำ 729,000 ถึง 1,149,000 บาทสัมผัสและทดลองขับเชฟโรเลต ครูซ ได้ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2010


"ปรากฏการณ์ใหม่ ปลุกทุกปฏิกิริยาตอบสนอง” จีเอ็มและเชฟโรเลต ประเทศไทย เปิดตัว เชฟโรเลต ครูซ อย่างเป็นทางการ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้วยขุมพลังขับเคลื่อนที่เหนือชั้นทั้ง 3 รุ่น และอัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เปิดราคาช่วงแนะนำเริ่มต้น 729,000 ถึง 1,149,000 บาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายถึงสิ้นปีหน้ามากกว่า 10,000 คัน


มร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าการเปิดตัวเชฟโรเลต ครูซ ถือเป็นก้าวที่สำคัญที่สุดอีกครั้งของ จีเอ็มและเชฟโรเลต ประเทศไทย โดย เชฟโรเลต ครูซ เป็นรถยนต์คอมแพกต์ซีดานระดับโลก ที่มีความยอดเยี่ยมทั้งในด้านการออกแบบ เทคโนโลยี อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความปลอดภัย และสมรรถนะการขับขี่


เชฟโรเลต ครูซ ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิดแบบ Global Compact Car หรือ รถคอมแพกต์ซีดานระดับโลกที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วทุกมุมโลก โดยปัจจุบัน เชฟโรเลต ครูซ ได้เปิดตัวไปแล้วกว่า  75 ประเทศใน 5 ทวีป ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามและยังสามารถคว้ารางวัลต่างๆ มากมายทั่วโลก โดยได้พิสูจน์แล้วจากยอดจำหน่ายที่มีมากกว่า 350,000 คันทั่วโลก


“ยอดจำหน่ายของเชฟโรเลต ครูซ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ถือเป็นปรากฎการณ์ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ โดยเชฟโรเลต ประเทศไทย มีเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายอันแข็งแกร่ง 93 แห่งทั่วประเทศ ที่มีความพร้อมในการให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่ ทำให้ผมเชื่อมั่นว่า เชฟโรเลต ครูซ จะสามารถดึงดูดลูกค้า และทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า 10,000 คันในปีพ.ศ.2554” มร.มาร์ติน แอพเฟล กล่าว


เชฟโรเลต ครูซ มาพร้อมกับการออกแบบที่ปฏิวัติพลิกโฉมตลาดรถยนต์นั่งขนาดกลาง โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่แยกส่วนแบบสองชั้น รับกับกรอบไฟหน้าขนาดใหญ่ที่ดุดัน ด้านข้างตัวรถเน้นเส้นสายที่มีความเฉียบคมอย่างเห็นได้ชัด ตัดสายตาด้วยมือจับประตูโครเมี่ยม สะท้อนความพิถีพิถันและรสนิยมหรู


เชฟโรเลต ครูซ มีมิติตัวถังขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ด้วยความยาว 4,600 มม. กว้าง 1,790 มม. และสูง 1,475 มม. เติมเต็มทั้งในด้านภาพลักษณ์และความสะดวกสบายให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนระยะฐานล้อมีความกว้างถึง 2,685 มม.


ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยการออกแบบภายในสไตล์ ‘ดูอัล ค็อกพิท’ ซึ่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าจะได้สัมผัสกับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นร่วมกัน เป็นดีไซน์ที่ถูกถ่ายทอดมาจากที่สุดแห่งรถสปอร์ตมัสเซิลคาร์ เชฟโรเลต คอร์เวทท์ และคล้ายคลึงกับค็อกพิทของห้องนักบิน เน้นความสมดุลของดีไซน์และตำแหน่งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบนแผงคอนโซลกลาง


โดยมีเอกลักษณ์ที่จะสร้างความแตกต่างให้ เชฟโรเลต ครูซ โดดเด่นเหนือคู่แข่ง โดยคอนโซลหน้าเน้นดีไซน์แบบทูโทนสีดำสลับสีน้ำตาลส้ม ใช้วัสดุหุ้มหนังตัดกับอลูมิเนียมทั้งคอนโซลกลางและแผงข้างประตู พร้อมกับมีหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะสำหรับผู้ขับขี่


เชฟโรเลต ครูซ ยังมีเทคโนโลยีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่อัดแน่นเต็มคัน ทั้งปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมระบบการเข้าห้องโดยสารด้วยรีโมท (Keyless Entry) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติครูสคอนโทรลที่ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน พร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงวิทยุ และเครื่องเล่นซีดี โดยผู้ขับขี่ยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมทั้ง Auxiliary และ USB อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบไร้สายแบบ Bluetooth เข้ากับเครื่องเสียงได้อีกด้วย 


นอกจากนี้ เชฟโรเลต ครูซ ยังมีระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมไฟนำทางที่จะส่องสว่างไว้ชั่วขณะเมื่อดับเครื่องยนต์ เพื่อส่องนำทางและเพิ่มความอุ่นใจในยามค่ำคืน
 
สำหรับขุมพลังขับเคลื่อนของ เชฟโรเลต ครูซ ในรุ่นสูงสุด แรงเหนือชั้นด้วยเครื่องยนต์คอมมอนเรล ดีเซล เทอร์โบแปรผัน ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเลคทรอนิคส์ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 2.0 ลิตร พร้อมระบบ VCDi ควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพิ่มอัตราความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดมลพิษ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลที่ 320 นิวตันเมตร     


อีกหนึ่งขุมพลังของ เชฟโรเลต ครูซ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC ความจุ 1.8 ลิตร พร้อมระบบวาล์วคู่แปรผันต่อเนื่อง Double Continuous Variable Cam Phasing (Double CVC) เทคโนโลยีล่าสุดของเชฟโรเลต ช่วยควบคุมวาล์วไอดีและไอเสียให้ปรับตามรอบเครื่องยนต์ เพิ่มอัตราเร่งตอบสนองทุกการขับขี่ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 141 แรงม้า ซึ่งเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 177 นิวตันเมตร 


นอกจากนี้ เชฟโรเลต ครูซ ยังมาพร้อมกับขุมพลังเบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ความจุ 1.6 ลิตร พร้อมระบบปรับระยะทางเดินท่อไอดีแบบแปรผัน Variable Geometry Intake System (VGiS) ซึ่งให้ทั้งสมรรถนะ ความประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีพละกำลังสูงสุดที่ 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 150 นิวตันเมตร


ระบบส่งกำลังของ เชฟโรเลต ครูซ ก้าวไปอีกระดับด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Driver Shift Control (DSC) ให้ผู้ขับขี่ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เอง ทำงานควบคู่กับระบบควบคุมแบบอิเลคทรอนิคส์ เทคโนโลยีล่าสุดที่พร้อมตอบสนองทุกการขับขี่ ให้อัตราเร่งอย่างคล่องแคล่วในการขับขี่ที่ช่วงความเร็วต่ำ และมีอัตราเร่งแซงอย่างมั่นใจในช่วงความเร็วสูง


ขณะเดียวกันด้วยระบบเกียร์อันชาญฉลาดที่มีถึง 6 จังหวะนี้ ยังสามารถควบคุมรอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในรอบต่ำ จึงช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างดี โดยนอกจากเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแล้ว เชฟโรเลต ครูซ ยังมาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดในรุ่นเครื่องยนต์แบบ 1.6 ลิตร และ 1.8 ลิตร


สำหรับระบบกันสะเทือน เชฟโรเลต ครูซ ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง โช๊กอัพแก๊ส และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคานทอร์ชั่นบีม และโช๊กอัพแก๊ส ขณะที่ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรก 4 ล้อ คู่กับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 225/50 R17 ในรุ่นสูงสุด และล้ออัลลอย 16 นิ้วพร้อมยาง 205/60 R16 ในรุ่นรองลงมา 


ระบบความปลอดภัยครบครันด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้างในรุ่นสูงสุด ระบบเบรก ABS พร้อมด้วย EBD     (Electronic Brake-Force Distribution) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ขณะที่โครงสร้างตัวถังใช้แผ่นเหล็กทนแรงอัดสูง และคานกันกระแทกด้านข้าง เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน 


ทั้งนี้ เชฟโรเลต ยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษด้วยอัตราค่าบำรุงรักษาที่ต่ำสุด ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่เพื่อยืดระยะการเข้ารับการตรวจเช็คตามระยะให้นานขึ้นกว่าเดิมที่ 15,000 กม. (ต่างจากรถยนต์รุ่นอื่นที่เช็คระยะทุกๆ 10,000 กม.) จึงส่งผลให้ค่าบำรุงรักษาโดยรวมจะประหยัดกว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆ ในระดับเดียวกัน


เชฟโรเลต ครูซ รถคอมแพกต์ซีดานระดับโลกจะออกมาอวดโฉมเพื่อให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัสและทดลองขับกันอย่างใกล้ชิดภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2553 นี้ พร้อมกิจกรรมมากมาย ซึ่งผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ เชฟโรเลต ครูซ ได้ทั้งทางเวบไซต์ www.cruze.in.th หรือwww.facebook.com/generalmotorsthailand หรือ โทรสอบถามได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1734