EARTH เปิดแผนธุรกิจปี 2554 เตรียมรุกขยายงานสุดตัว เล็งเปิดโรงงานแห่งที่สอง หวังขึ้นแท่นผู้นำค้าถ่านหินทั้งในและต่างประเทศ
EARTH เปิดแผนธุรกิจปี 2554 เตรียมรุกขยายงานสุดตัว เล็งเปิดโรงงานแห่งที่สอง หวังขึ้นแท่นผู้นำค้าถ่านหินทั้งในและต่างประเทศ
"ขจรพงศ์ คำดี” แม่ทัพใหญ่ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หรือ EARTH เปิดแผนธุรกิจปี 2554 เตรียมรุกขยายงานสุดตัว ขึ้นแท่นผู้นำด้านการนำเข้าและจัดจำหน่ายถ่ายหินทั้งในประเทศและต่างประเทศ หวังสร้างฐานกิจการให้มั่นคงแข็งแกร่ง
เผยเตรียมเปิดโรงงานแห่งที่สองภายในปีหน้า ดันกำลังการผลิตขยับอีก 60,000-80,000 ตันต่อเดือน จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ 60,000 ตันต่อเดือน พร้อมเจาะตลาดจีนขยายฐานลูกค้าเพิ่ม วางเป้าผลประกอบการปีนี้รายได้แตะระดับ 1,800 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 80 เมื่อเปรียบเทียบจากปีที่ผ่านมา ส่วนปี 2554 มั่นใจสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างต่อเนื่อง
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) (EARTH) เปิดเผยว่าภายหลังจาก บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เพอร์เฟค จำกัด ควบรวมกิจการกับบริษัท แอ๊ดว้านซ์เพ้นท์ แอนด์ เคมิเคิล (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) (APC) ได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน)
ซึ่งแผนการดำเนินธุรกิจจากนี้จะมุ่งเน้นไปสู่การเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในปัจจุบันได้นำเข้าถ่านหินจากเหมืองในประเทศอินโดนีเซียมาจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศเป็นหลักโดยแบ่งออกเป็นขนาดต่างๆ กันตามวัตถุประสงค์การใช้งานของลูกค้า
แผนการดำเนินธุรกิจของ EARTH ในปี 2554 เตรียมจะเปิดโรงงานแห่งที่สองในอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเมื่อโรงงานแห่งใหม่ก่อสร้างเสร็จจะเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกประมาณ 60,000-80,000 ตันต่อเดือน จากปัจจุบันมีโรงงานตั้งอยู่ที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีกำลังการผลิตประมาณ 60,000 ตันต่อเดือน นอกจากนั้นบริษัทมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยการเปิดตลาดใหม่ที่ประเทศจีนโดยตรง ซึ่งขณะนี้ถือเป็นตลาดสำคัญที่มีกำลังซื้อจำนวนมาก
“บริษัทของเราจัดเป็นผู้ประกอบการที่เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหิน อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ การที่เข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะยิ่งสร้างความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินธุรกิจของบริษัทมากยิ่งขึ้นและช่วยสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้สามารถรุกธุรกิจให้มีอัตราการขยายตัวที่ดีต่อเนื่องและมีอัตราการเติบโตที่สูงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ EARTH มีแผนที่จะปรับปรุงคุณสมบัติของบริษัทให้ได้ตามเกณฑ์การดำรงสถานะเป็นบริษัท จดทะเบียนก่อนขอพ้นเหตุเพิกถอน และรับหลักทรัพย์ใหม่ เพื่อให้หุ้นสามัญของบริษัทสามารถกลับมาซื้อขายได้ตามปกติ ซึ่งเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลบวกกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นของบริษัททุกคน”
นายขจรพงศ์ กล่าวต่อว่าแนวโน้มของผลประกอบการในปี 2553 คาดว่าจะยังมีอัตราการขยายตัวที่โดดเด่น เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาโดยตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 80 และจากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งมีศักยภาพมากขึ้นในการดำเนินธุรกิจ ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการในปี 2554 จะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ไม่แพ้ปีที่ผ่านๆ มา
สำหรับผลประกอบการล่าสุดงวด 6 เดือนปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2553 บริษัทมีรายได้รวม 696.54 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 12.05 ล้านบาท และบริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,005.56 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 685.98 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 319.59 ล้านบาท