เนื้อหาวันที่ : 2010-12-16 14:04:14 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1939 views

ตลาดรถยนต์ไปได้สวย พ.ย. ยอดขายเพิ่ม 38.3%

โตโยต้า โชว์สถิติยอดขายรถยนต์ เผยเดือน พ.ย. พุ่งเฉียด 8 หมื่นคัน 11 เดือนขายกว่า 7 แสนคัน ชี้สะท้อนภาพเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น

.
โตโยต้า โชว์สถิติยอดขายรถยนต์ เผยเดือน พ.ย. พุ่งเฉียด 8 หมื่นคัน 11 เดือนขายกว่า 7 แสนคัน ชี้สะท้อนภาพเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น
.

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2553 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 78,874 คัน เพิ่มขึ้น 38.3% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 33,594 คัน เพิ่มขึ้น 39.7% รถเพื่อการพาณิชย์ 45,280 คัน เพิ่มขึ้น 37.3% ซึ่งรวมรถกระบะขนาด 1 ตัน จำนวน 39,310 คัน เพิ่มขึ้น 36.1%

.
ประเด็นสำคัญ        

1.) ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายนมีปริมาณการขาย 78,874 คัน เพิ่มขึ้น 38.3% เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่าน โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 33,594 คัน เพิ่มขึ้น 39.7% ด้านตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 45,280 คัน เพิ่มขึ้น 37.3%

.

สะท้อนถึงภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ดีขึ้น โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการไหลเข้าของเงินทุนทำให้มีปริมาณเงินในระบบมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทั้งนี้แม้ว่าในบางพื้นที่จะได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม 

.

2.) ตลาดรถยนต์สะสม 11 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 707,235 คัน เป็นยอดขายที่สูงกว่ายอดขายทั้งปีของปี 2548 (703,432 คัน) ซึ่งเป็นปีที่ประเทศไทยมียอดขายรถยนต์สูงที่สุด ทั้งนี้มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 48.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

.

โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 54.1% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 44.2% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคภายใน ประเทศที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับความนิยมในรถยนต์นั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์นั่งขนาดเล็กที่เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ต้นปี 

.

3.) ตลาดรถยนต์ในเดือน ธันวาคม ยังคงเติบโต จากสถิติการขายแล้วเดือนธันวาคมจะเป็นเดือนที่มียอดขายสูงสุด จากการที่ทุกค่ายรถยนต์จะนำข้อเสนอพิเศษต่างๆมาเสนอต่อผู้บริโภคเพื่อบรรลุเป้าหมายการขายของปี การจัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ประกอบกับความนิยมต่อเนื่องในตลาดรถยนต์นั่ง และรถยนต์รุ่นใหม่ รุ่นพิเศษ ที่เพิ่งแนะนำเข้าสู่ตลาด ซึ่งคาดว่าตลาดรถยนต์ในปีนี้ ถึงสิ้นเดือนธันวาคมจะมีปริมาณการขายมากกว่า 780,000 คันได้

.

ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนพฤศจิกายน 2553
          1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 78,874 คัน เพิ่มขึ้น 38.3%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 33,650 คัน เพิ่มขึ้น 36.9% ส่วนแบ่งตลาด 42.7%
          อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,443 คัน เพิ่มขึ้น 39.3% ส่วนแบ่งตลาด 19.6%
          อันดับที่ 3 ฮอนด้า 10,146 คัน เพิ่มขึ้น 6.2% ส่วนแบ่งตลาด 12.9%

.

2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 33,594 คัน เพิ่มขึ้น 39.7%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,756 คัน เพิ่มขึ้น 47.0% ส่วนแบ่งตลาด 43.9%
          อันดับที่ 2 ฮอนด้า 9,391 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนแบ่งตลาด 28.0%
          อันดับที่ 3 นิสสัน 3,056 คัน เพิ่มขึ้น 205.9% ส่วนแบ่งตลาด 9.1%

.

3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 39,310 คัน เพิ่มขึ้น 36.1%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,133 คัน เพิ่มขึ้น 29.7% ส่วนแบ่งตลาด 43.6%
          อันดับที่ 2 อีซูซุ 14,337 คัน เพิ่มขึ้น 39.6% ส่วนแบ่งตลาด 36.5%
          อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 3,314 คัน เพิ่มขึ้น 116.2% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
          *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 4,299 คัน
          โตโยต้า 2,157 คัน - อีซูซุ 1,060 คัน - มิตซูบิชิ 1,017 คัน - ฟอร์ด 65 คัน

.

4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 35,011 คัน เพิ่มขึ้น 35.7%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,976 คัน เพิ่มขึ้น 28.8% ส่วนแบ่งตลาด 42.8%
          อันดับที่ 2 อีซูซุ 13,277 คัน เพิ่มขึ้น 39.0% ส่วนแบ่งตลาด 37.9%
          อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 2,297 คัน เพิ่มขึ้น 168.7% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%

.

5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 45,280 คัน เพิ่มขึ้น 37.3%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,894 คัน เพิ่มขึ้น 29.9% ส่วนแบ่งตลาด 41.7%
          อันดับที่ 2 อีซูซุ 15,443 คัน เพิ่มขึ้น 39.3% ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
          อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 3,314 คัน เพิ่มขึ้น 116.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.3%

.

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2553
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 707,235 คัน เพิ่มขึ้น 48.3%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 288,837 คัน เพิ่มขึ้น 42.8% ส่วนแบ่งตลาด 40.8%
          อันดับที่ 2 อีซูซุ 135,363 คัน เพิ่มขึ้น 39.8% ส่วนแบ่งตลาด 19.1%
          อันดับที่ 3 ฮอนด้า 102,094 คัน เพิ่มขึ้น 25.2% ส่วนแบ่งตลาด 14.4%

.

2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 307,629 คัน เพิ่มขึ้น 54.1%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 125,876 คัน เพิ่มขึ้น 42.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.9%
          อันดับที่ 2 ฮอนด้า 93,748 คัน เพิ่มขึ้น 21.2% ส่วนแบ่งตลาด 30.5%
          อันดับที่ 3 นิสสัน 27,024 คัน เพิ่มขึ้น 245.1% ส่วนแบ่งตลาด 8.8%

.

3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 341,432 คัน เพิ่มขึ้น 42.1%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 145,568 คัน เพิ่มขึ้น 41.5% ส่วนแบ่งตลาด 42.6%
          อันดับที่ 2 อีซูซุ 125,676 คัน เพิ่มขึ้น 39.1% ส่วนแบ่งตลาด 36.8%
          อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 26,751 คัน เพิ่มขึ้น 104.7% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
          *ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 35,717 คัน
          โตโยต้า 18,367 คัน - มิตซูบิชิ 9,718 คัน - อีซูซุ 6,801 คัน - ฟอร์ด 831 คัน

.

4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 305,715 คัน เพิ่มขึ้น 41.5%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 127,201 คัน เพิ่มขึ้น 42.5% ส่วนแบ่งตลาด 41.6%
          อันดับที่ 2 อีซูซุ 118,875 คัน เพิ่มขึ้น 39.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.9%
          อันดับที่ 3 นิสสัน 20,782 คัน เพิ่มขึ้น 20.4% ส่วนแบ่งตลาด 6.8%

.

5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 399,606 คัน เพิ่มขึ้น 44.2%
          อันดับที่ 1 โตโยต้า 162,961 คัน เพิ่มขึ้น 43.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.8%
          อันดับที่ 2 อีซูซุ 135,363 คัน เพิ่มขึ้น 39.8% ส่วนแบ่งตลาด 33.9%
          อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 26,752 คัน เพิ่มขึ้น 104.6% ส่วนแบ่งตลาด 6.7%