อุตสาหกรรมไอทีถือว่ามีความสำคัญที่จะช่วยพัฒนาและแก้ปัญหาการขนส่งพลังงานรวมถึงลดการปล่อยคาร์บอน และยังเป็นแรงหนุนหลักให้กับนโยบายรัฐบาล
อุตสาหกรรมไอทีถือว่ามีความสำคัญที่จะช่วยพัฒนาและแก้ปัญหาการขนส่งพลังงานรวมถึงลดการปล่อยคาร์บอน และยังเป็นแรงหนุนหลักให้กับนโยบายรัฐบาล
Google, ซิสโก้และเอชพีคือยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในการปรับปรุงผู้นำด้านไอทีล่าสุดของเรา ในปีนี้บริษัทเหล่านี้และบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศแนวหน้าด้านอื่น ๆ กับโลก หลากหลายบริษัทที่เริ่มต้นเป็นครั้งแรก บางบริษัทก็เป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่สุดสำหรับข้อถกเถียงด้านกฏหมายและนโนยาย
แต่บางบริษัทแค่กำลังเริ่มต้นที่จะเข้าใจ บริษัทอื่น ๆ ที่เหลือก็จะไม่สามารถคว้าโอกาสที่จะสนับสนุนการกระทำของรัฐที่แข็งแกร่งที่จะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการนำเสนอทางออกสำหรับสภาพภูมิอากาศของพวกเขา
อุตสาหกรรมไอทีถือได้ว่าอยู่ในตำแหน่งที่เป็นลักษณะพิเศษเฉพาะตัวสำหรับการพัฒนาและแก้ปัญหาการขนส่งพลังงานและลดการปล่อยคาร์บอนของพวกเขา, และยังเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งต่อนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศของรัฐบาลอย่างมาก -- ดังนั้นเราใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับการให้คะแนนแต่ละบริษัท
รุ่นที่สี่ของผู้นำด้านไอที , ได้ถูกเปิดตัวในที่ประชุม UNFCCC ในแคนคูน เม็กซิโก รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างบริษัทที่เป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศกับบริษัทที่ยังล้าหลัง ยกตัวอย่างเช่น
• โซนี่ยุโรปร่วมกับกูเกิ้ลเพื่อสนับสนุนสหภาพยุโรปในการพยายามตั้งเป้าหมายให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2563 ในขณะที่ไมโครซอฟต์ อินเทล และไอบีเอ็ม เข้าเป็นส่วนร่วมในกลุ่ม “บิสเนสยุโรป” ที่ต่อต้านเป้าหมายนี้ จึงถูกตัดคะแนนโทษฐานสนับสนุนนโยบายที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• กูเกิ้ล ร่วมกับซิสโก้และเอชพี ร่วมกันต่อต้านมาตรการที่เรียกว่า Proposition 23 ballot ในแคลิฟอร์เนียได้สำเร็จ มาตรการที่ว่านี้เป็นความพยายามที่ล้มเหลวของผู้มีผลประโยชน์ในน้ำมัน ที่ออกมาขัดขวางกฎหมายโลกร้อนของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California Global Warming Solutions Act )
• ฟูจิตสึได้รับคะแนนสูงจากการแนะนำนโยบาย 12 ข้อเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศและพลังงานหมุนเวียนให้แก่รัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งกำลังพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ต่ำกว่าระดับที่ปล่อยในปี 2533 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2563 ในขณะที่บริษัทไอทีสัญชาติญี่ปุ่นบริษัทอื่นๆ ยังคงนิ่งเฉย ทำให้ถูกตัดคะแนนด้านการสนับสนุนนโยบาย ร่างกฎหมายลด
“บริษัทไอทีที่มองการณ์ไกลจะได้คะแนนสูงกว่าบริษัทอื่นๆ เพราะบริษัทเหล่านี้ตระหนักดีถึงผลประโยชน์ที่ตนจะได้จากโลกที่มีคาร์บอนต่ำ” แกรี่ คุก นักวิเคราะห์นโยบายพลังงานของกรีนพีซกล่าว “บริษัทในภาคไอทีมักจะกล่าวถึงศักยภาพของตนที่จะลดการปล่อยคาร์บอนลง 15 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2563
แต่บริษัทไอทีส่วนใหญ่ยังคงใช้วิธีการค่อยเป็นค่อยไป แทนที่จะใช้วิธีลดคาร์บอนที่จะได้ผลแบบก้าวกระโดด ทั้ง ๆ ที่บริษัทไอทีเหล่านี้มักใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ ประเภทก้าวกระโดดในการทำธุรกิจอยู่เสมอ ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจไอที จะต้องไม่รอช้าในการเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ และเข้าแทรกแซงในการประชุมที่สำคัญต่างๆ เพื่อผลักดันให้เกิดนโยบายรัฐในการแก้ไขปัญหาพลังงานและสภาพภูมิอากาศ”
สำหรับการจัดอันดับในคูลไอที ลีดเดอร์บอร์ดฉบับนี้ ผู้นำโดยรวมได้แก่ซิสโก้ อิริคสัน และฟูจิตสึ ตามลำดับ ซิสโก้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นจากการก้าวขึ้นมาทำไอทีเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับวันจะเพิ่มความสำคัญในฐานะธุรกิจหลักของบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนี่ก็เป็นแรงจูงใจที่จะทำให้ซิสโก้สนับสนุนนโยบายรัฐที่ออกมาควบคุม มลพิษทางคาร์บอน
ที่มา : กรีนพีซ