SUSCO แจงธุรกิจปี 2010 ปิด 3 ไตรมาสยังไปได้สวย มั่นใจยอดโตตามเป้า 10% ชี้ปีหน้าวางหมากเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าในประเทศ และเพิ่มการขยายฐานส่งออกสู่ต่างประเทศ หวังยอดโตกว่าปี 2010 ถึง 10%
SUSCO แจงธุรกิจปี 2010 ปิด 3 ไตรมาสยังไปได้สวย มั่นใจยอดโตตามเป้า 10% ชี้ปีหน้าวางหมากเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าในประเทศ และเพิ่มการขยายฐานส่งออกสู่ต่างประเทศ หวังยอดโตกว่าปี 2010 ถึง 10%
บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) แถลงผลประกอบการ 3 ไตรมาสของปี 2010 บริษัทฯ มีกำไรกว่า 53 ล้านบาท และมียอดขายสูงกว่าปี 2009 ถึงกว่า 24 ล้านลิตร มั่นใจสิ้นปีนี้ยอดโตตามเป้า 10% พร้อมเผยกลยุทธ์ปี 2011 เดินหน้ารักษาฐานลูกค้าในประเทศโดยการทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบการให้บริการ
รวมทั้งเพิ่มและปรับภาพลักษณ์ของสถานีบริการทั้งปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่องด้วยระบบบริหารงานธุรกิจค้าปลีกสำหรับธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน (Automation) รวมทั้งอัดกิจกรรมทางการตลาดสู่กลุ่มลูกค้าตลอดปี พร้อมเดินหน้าขยายฐานการส่งออกปิโตรเลียม สู่ประเทศเพื่อนบ้านในแถบใกล้เคียง หวังยอดสิ้นปีหน้าโตกว่าปี 2010 ถึง 10%
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภาพรวมของธุรกิจน้ำมันของไทยในปี 2553 ตั้งแต่ไตรมาสที่หนึ่งถึงไตรมาสที่สาม ถือได้ว่าอยู่ในขั้นทรงตัว โดยราคาของน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติหรือพลังงานทดแทนมีการปรับตัวขึ้นลงตามสภาวะการณ์ของราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยเฉพาะในส่วนของตลาดก๊าซธรรมชาติหรือพลังงานทดแทนนั้นในช่วงปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันมีอัตราการเติบโตถึง 22 %
ทั้งนี้เนื่องมาจากราคาน้ำมันปิโตรเลียมที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพของก๊าซธรรมชาติหรือพลังงานทดแทน รวมทั้งรัฐบาลยังให้การสนับสนุนด้วยการออกนโยบายรักษาระดับราคาก๊าซ NGV ให้คงที่ จึงส่งผลให้ความต้องการก๊าซธรรมชาติหรือพลังงานทดแทนของผู้บริโภคแทนการใช้น้ำมันปิโตรเลียมมีสูงขึ้นเรื่อยๆ”
นายชัยฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า “ทั้งนี้สำหรับภาพรวมธุรกิจของ SUSCO ถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2010 นั้น ธุรกิจมีผลประกอบการและยอดขายเป็นที่น่าพอใจ โดยบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจจนถึงปัจจุบันกว่า 53 ล้านบาท รวมทั้งมียอดขายสูงกว่าปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันถึงกว่า 24 ล้านลิตร ทั้งนี้ความสำเร็จดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากการที่เราวางแนวทางในการดำเนินธุรกิจโดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าและกลุ่มลูกค้าที่คาดหวังในอนาคต ได้แก่
1) ธุรกิจด้านน้ำมันปิโตรเลียมในประเทศ ซึ่งเรามีสถานีบริการน้ำมันปิโตรเลียมกว่า 150 สถานีบริการทั่วประเทศ รวมทั้งมีการส่งออกน้ำมันไปยังตลาดต่างประเทศ 2) ธุรกิจด้านก๊าซหรือพลังงานทดแทน เรามีการขยายสถานีบริการโดยแบ่งเป็นสถานีบริการก๊าซ LPG จำนวน 7 สถานีบริการ และก๊าซ NGV จำนวน 8 สถานีบริการ และ 3) การแตกไลน์ธุรกิจผู้ให้บริการคลังเก็บสินค้าประเภทของเหลว ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจใหม่ของปีนี้และน่าจะดำเนินไปได้ด้วยดีในอนาคต
ทั้งนี้ในช่วงปีที่ผ่านมา SUSCO ยังมีการใช้กลยุทธ์การตลาดโดยการเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของชุมชนเพื่อให้สอดคล้องกับสโลแกนขององค์กรที่ว่า “ ซัสโก้ สิ่งดี ๆ ที่อยู่ใกล้ชิดชุมชน ” โดยเรามีการกำหนดราคาสินค้าและบริการที่ย่อมเยาว์แต่เน้นที่คุณภาพ รวมทั้งในปีที่ผ่านมาอย่างที่กล่าวไปเมื่อข้างต้นว่าเราเน้นการพัฒนาในส่วนของธุรกิจด้านก๊าซธรรมชาติหรือพลังงานทดแทนโดยเรามีการทุ่มงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ในการขยายสถานีบริการก๊าซ NGV จำนวน 1 สถานี
ซึ่งล่าสุดคือที่สถานีบริการ บางบ่อ พร้อมทั้งเรายังทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ของสถานีบริการและพัฒนาคลังเก็บสินค้าให้มีประสิทธิภาพ เพื่อพร้อมรองรับความต้องการของกลุ่มค้าได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้ธุรกิจของ SUSCO มีการกระจายความเสี่ยงได้มาก และเติบโตได้ในทุกธุรกิจ
อีกทั้งที่สำคัญเรามีการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย ภายใต้ชื่อ “สะสมแต้ม...แจกรางวัล” ณ สถานีบริการต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยใช้วิธีการวนกิจกรรมไปในแต่ละสถานีรวม 5 สถานีบริการ ซึ่งมีผลช่วยให้ยอดขายของ SUSCO ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้นกว่า 10%”
“สำหรับในปี 2011 SUSCO ยังคงดำเนินตามวิสัยทัศน์และพันธกิจในการดำเนินธุรกิจ โดยเรามุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจที่ต่อเนื่องและยั่งยืน สามารถให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง มีการขายสินค้าและบริการที่มีคุณภาพเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าและตลาด ภายใต้ต้นทุนที่ประหยัด รวมทั้งมีการพัฒนาระบบการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรามีการกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2011 เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจที่เรากำหนดไว้
โดยเราจะเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าภายในประเทศ ซึ่งยังคงยึดมั่นสโลแกนขององค์กรที่ว่า “ ซัสโก้ สิ่งดี ๆ ที่อยู่ใกล้ชิดชุมชน ” โดยเราจะเน้นการบริการที่ดี ราคาสินค้าย่อมเยาว์แต่มีคุณภาพ พร้อมกำหนดงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท สำหรับปีนี้เพื่อเดินหน้าปรับปรุงสถานีบริการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้ระบบบริหารงานธุรกิจค้าปลีกสำหรับธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน (Automation) รวมทั้งในปีนี้เราจะมีการขยายฐานการส่งออกน้ำมันปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติสู่ประเทศเพื่อนบ้านในแถบใกล้เคียง อาทิ กัมพูชา ลาว พม่า จีน เป็นต้น
เนื่องจากตลาดต่างประเทศเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และสามารถที่จะมีช่องทางในการขยายฐานลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต สำหรับในส่วนของการทำการตลาดของ SUSCO นั้น ในปี 2011 เรามีการกำหนดงบประมาณในส่วนของการทำแคมเปญทางการตลาด และสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์กว่า 20 ล้านบาท โดยเรายังคงใช้กิจกรรม “สะสมแต้ม...แจกรางวัล” เป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นยอดขายในแต่ละสถานีบริการ
เนื่องจากกิจกรรมนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าของ SUSCO ดีมากในช่วงปีนี้ โดยในปี 2011 เราจะมีการเพิ่มช่องทางการโปรโมทแคมเปญผ่านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งสื่อวิทยุ และสื่อโทรทัศน์ เพื่อสร้างการรับรู้จดจำในตัวกิจกรรมแก่ลูกค้า อีกทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายให้แก่สถานีบริการนั้น ๆ และยอดขายของ SUSCO โดยรวมอีกด้วย ซึ่งเราคาดหวังไว้ว่าในปี 2011 SUSCO จะมีอัตราการเติบโตทางธุรกิจสูงกว่าปี 2010 ถึง 10% อย่างแน่นอน”
“นอกจากนี้ในส่วนของการทำกิจกรรมเพื่อสังคมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เรายังคงมุ่งมั่นในการดำเนินกิจกรรม “เทวดาตัวน้อย” มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง โดยมีการเฟ้นหาเยาวชนที่มีความกตัญญู เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมีผลการเรียนที่ดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งเราจะมีการให้เงินสนับสนุนให้กับเยาวชนและโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกเป็นจำนวน 10,000 บาท ทุกสัปดาห์
อีกทั้งยังมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม การบริจาคสิ่งของบริจาคจากกิจกรรม “สะสมแต้ม...แจกรางวัล” ให้แก่น้อง ๆ ผู้ด้อยโอกาสตามโรงเรียนในต่างจังหวัด ซึ่งในปี 2011 เราก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเฉพาะกิจกรรม “เทวดาตัวน้อย” อีกแน่นอนเพื่อให้สมกับสโลแกนของขององค์กรที่ว่า “ ซัสโก้สิ่งดี ๆ ที่อยู่ใกล้ชิดชุมชน ” “นายชัยฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย