นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันการนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วของเวียดนามเป็นไปตาม Circular No. 04/2006 ลงวันที่ 6 เมษายน 2006 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. รถยนต์ใช้แล้วชนิดต่าง ๆ ได้แก่ รถโดยสาร รถบรรทุกสินค้า รถยนต์กระบะ รถใช้งานพิเศษ ที่มีอายุไม่เกิน 5 ปีการผลิต สามารถนำเข้าเวียดนามได้ สำหรับการนำเข้ารถโดยสารต่ำกว่า 16 ที่นั่ง ต้องเป็นไปตาม Joint Circular No.03/2006/TTLT-BGTVT-BTV-BCA ลงวันที่ 31 มีนาคม 2006 ออกโดยกระทรวงการค้า กระทรวงขนส่ง กระทรวงการคลัง และกระทรวงรักษาความปลอดภัยสาธารณะของเวียดนาม
2. ห้ามนำเข้ายานพาหนะพวงมาลัยขวา (right-hand drive) รวมทั้งแบบแยกเป็นชิ้นส่วนและแบบดัดแปลงพวงมาลัย (converted hand-drive) ยกเว้น ยานพาหนะพวงมาลัยขวาเพื่อใช้งานพิเศษและใช้งานภายในพื้นที่ที่จำกัด เช่น รถเครน รถขุดคูน้ำ รถกวาดภนน รถสเปรย์น้ำ รถบรรทุกขยะ รถใช้ในการก่อสร้างถนน รถโดยสารใช้ในสนามบิน รถยกที่ใช้ในคลังสินค้าและท่าเรือ ยานยนต์ปั๊มคอนกรีต และยานพาหนะใช้ในสนามกอล์ฟและสวนสาธารณะ
3. ห้ามนำเข้ารถยนต์ทุกชนิดที่ได้มีการเปลี่ยนโครงสร้าง และมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขตัวถัง หรือหมายเลขเครื่องยนต์ โดยการตัดหรือดัดแปลง ไม่ว่าจะในกรณีใด ๆ และรูปแบบใด ๆ
4. ห้ามถอดส่วนประกอบรถออกขณะที่ทำการขนส่งและนำเข้า
นายสุรศักดิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยส่งออกยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบไปเวียดนาม โดยเฉลี่ย (2550 - 2552) มูลค่ารวม 16,082 ล้านบาท และในปี 2553 (ม.ค. – ต.ค.) ส่งออกมูลค่า รวม 16,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2552 ดังนั้น การที่ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญ การส่งออกรถยนต์ใหม่ไปเวียดนามจึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทย