เนื้อหาวันที่ : 2010-12-02 14:45:36 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2601 views

เชาว์ สตีลฯ เตรียมเข้าตลาดหุ้นหลังทิศทางราคาเหล็กฟื้น

เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ เตรียมความพร้อมก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ คาดกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนทั่วไปได้ในปี 2554 สอดรับแนวโน้มราคาเหล็กที่ฟื้นตัว

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน)


เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ เตรียมความพร้อมก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ คาดกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนทั่วไปได้ในปี 2554 สอดรับแนวโน้มราคาเหล็กที่ฟื้นตัว


“เชาว์ สตีล อินดัสทรี้” ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาว เตรียมความพร้อมก่อนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ คาดกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนทั่วไปได้ในปี 2554 ระบุสอดรับกับแนวโน้มราคาเหล็กที่ฟื้นตัวขึ้นจากความต้องการใช้ที่มากขึ้น หลังซบเซาตั้งแต่ปี 52 ชี้แนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ เผย 9 เดือนแรกทำรายได้กว่า 2.70 พันล้านบาท ขณะที่เป้าหมายทั้งปีอยู่ที่ 4 พันล้านบาท


นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะระดมทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2554


โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม เพื่อ ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุมัติการกระจายหุ้นให้กับประชาชนเป็นการทั่วไป โดยคาดว่าจะสามารถยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต.ได้ในช่วงปี 2554


ทั้งนี้ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาว (Billet) ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ สามารถสนองความต้องการในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีความต้องการใช้เหล็กแท่งยาวภายในประเทศ เพื่อนำไปผ่านกระบวนการเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาวชนิดต่าง ๆ ได้แก่ เหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย เหล็กลวด และเหล็กรูปพรรณทรงยาว


โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตเหล็กแท่งทรงยาวสูงสุดจำนวนประมาณ 730,000 ตันต่อปี ซึ่งนอกเหนือจากการผลิตเหล็กแท่งยาวแล้ว บริษัทฯ ยังเป็นตัวแทนจำหน่าย เหล็กเส้น เหล็กข้ออ้อย และเหล็กลวด ให้กับบริษัทลูกค้าอีกด้วย


“ต้องยอมรับว่า ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลก ทั้งในสหรัฐฯและยุโรป ส่งผลให้การบริโภคเหล็กทั้งในและต่างประเทศมีปริมาณไม่มากนัก ทำให้ภาพรวมของกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กเป็นไปอย่างซบเซา ขณะที่ราคาเหล็กเกิดความผันผวนเป็นอย่างมาก


โดยเฉพาะในช่วงปี 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาเหล็กอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก ต่อเนื่องถึงปี 2553 ที่ราคาเหล็กได้เคลื่อนไหวทรงตัวในระดับที่ต่ำ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ในปี 2554 แนวโน้มของราคาเหล็กจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเริ่มมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ประกอบกับการบริโภคของต่างประเทศที่มีแนวโน้มการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายอนาวิลกล่าว


ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของบริษัทฯ นั้นที่ผ่านมาได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ราคาเหล็กตกต่ำ โดยได้มุ่งเน้นการทำตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2552 เนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งหลังจากแนวโน้มราคาเหล็กกระเตื้องขึ้นในปี 2554 บริษัทฯ ก็จะเริ่มขยายการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต


ขณะที่ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในปี 2553 นั้น นายอนาวิล กล่าวด้วยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ 2,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วคิดเป็น 1,220.66 ล้านบาท โดยได้ตั้งเป้าหมายยอดขายตลอดทั้งปีไว้ที่ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่า น่าจะสามารถทำได้ตามที่วางไว้