เอสซี แอสเสท เปิดโครงการหรูใหม่ "กรานาดา ปิ่นเกล้า" บ้านหรูระดับ 100 ล้าน มั่นใจมาตรการคุมเข้มแบงก์ชาติไม่กระทบกลุ่มลูกค้า
เอสซี แอสเสท เปิดโครงการหรูใหม่ "กรานาดา ปิ่นเกล้า" บ้านหรูระดับ 100 ล้าน มั่นใจมาตรการคุมเข้มแบงก์ชาติไม่กระทบกลุ่มลูกค้า
เอสซี แอสเสท เผยผลงานภาคภูมิใจนำเสนอแห่งปี โครงการหรูใหม่ “ โครงการ กรานาดา ปิ่นเกล้า ” อาณาจักรแห่งความยิ่งใหญ่ส่วนตัว รายล้อมด้วยบรรยากาศสนามกอล์ฟเล่นระดับสไตล์โมเดิร์น สแปนิช ระดับราคา 60-100 ล้านบาท พร้อมเชื่อมาตรการที่ธปท.ออกมาจะไม่กระทบต่อกลุ่มลูกค้าเอสซีฯ
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากเอสซีฯ มีการพัฒนาโปรดักส์หลากหลายทั้งแนวราบและแนวสูงครอบคลุมกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมทุกเซกเมนท์ และที่ผ่านมามีการดำเนินงานด้านสื่อสารการตลาด
ตลอดจนกิจกรรมการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า CRM & CEM (Customer Experience Management) ในเชิงรุกและครบวงจรควบคู่กันมาโดยตลอด ซึ่งกิจกรรมล่าสุดคือ การจัดงานเปิดตัว “ โครงการกรานาดา ปิ่นเกล้า” อย่างยิ่งใหญ่ในธีม Experience the Empire ที่นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ในการบุกตลาดบ้านหรูระดับลักซ์ชัวรี่ ไฮเอนด์ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อต้องการขยายเซกเม้นท์ไปยังกลุ่มลูกค้าระดับบน
ดังนั้น จึงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการระดับ Top of the Top ตามแนวคิดภายใต้สโลแกนใหม่ “ คิดด้วยรัก ดีไซน์เพื่ออนาคต ” ด้วยการสร้างแบรนด์ใหม่ชื่อ “ กรานาดา ” อันหมายถึงเมืองหนึ่งที่มีประวัติและสถาปัตยกรรมอันเลืองชื่อในประเทศสเปน ที่มีลักษณะ ภูมิประเทศเป็นเทือกเขา ซึ่งใช้เป็นคอนเซปท์ของโครงการที่เน้นพื้นที่ส่วนกลางถึง 53 % เป็นพื้นที่สีเขียวให้ความร่มรื่นและเป็นธรรมชาติในบรรยากาศน้ำตกพร้อมสวนสวย
ที่สำคัญคือบรรยากาศสนามกอล์ฟเล่นระดับภายใต้ Contour Landscape Concept และหญ้าที่ใช้ทั้งหมดเป็นหญ้า Paspalum ที่ใช้เฉพาะสนามกอล์ฟเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้ตอกย้ำแบรนด์ด้วยการสื่อสารภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ Granada (15 วินาที) เพื่อเป็นการแนะนำโครงการให้เป็นที่รู้จักต่อจากภาพยนตร์คอร์ปอเรท ชุด “ Love Theory ”
โครงการกรานาดา ปิ่นเกล้า เป็นโครงการคฤหาสน์หรู สไตล์โมเดิร์น สแปนิช แบบ Double Front อันเป็นอาณาจักรส่วนตัวพร้อมเรือนรับรองและสระว่ายน้ำ ด้วยจุดเด่นบรรยากาศสนามกอล์ฟเล่นระดับและระบบไฟฟ้าใต้ดินทั่วทั้งโครงการ ตั้งอยู่ติดถนนปิ่นเกล้า-บรมราชชนนี บริเวณพุทธมณฑลสาย 3 บนพื้นที่กว่า 86 ไร่ เพียง 43 หลัง มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
มีแบบบ้านซึ่งพัฒนาเป็นต้นแบบนิวซีรี่ส์ 2011 ให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่ Grand Genil (แกรนด์ เฮนิล) , Grand Darro (แกรนด์ ดาร์โร) และ ซี่รี่ส์ท๊อปสุด Grand Alhambra (แกรนด์ อาลัมบรา) ที่มีดีไซน์ฟังก์ชั่นนวัตกรรมเหนือระดับด้วย Grand Piano Hall & Grand Living Room ที่เชื่อมต่อ Empire Clubhouse และ Private Pool นอกจากนี้ ยังดีไซน์ Waterfall Backyard ที่ออกแบบเฉพาะหลัง
ขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเริ่มตั้งแต่ 500 – 1,000 ตร.ม. ขึ้นไป บนพื้นที่ตั้งแต่ 240-640 ตารางวา ขนาด 6-7 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำส่วนตัวทุกห้อง, ห้องรับแขก, Foyer Hall, ห้องพักผ่อน, ห้องเธียร์เตอร์, ห้องอาหาร, ส่วนเตรียมอาหาร -ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน, โรงจอดรถแยกส่วน
นอกจากนี้ ยังเพิ่มความพิเศษเรื่องของเทคโนโลยีเพื่อรองรับการอยู่อาศัย คือ เพิ่มลิฟท์โดยสาร และ Motion Sensor พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยอันเป็นมาตรฐานจุดขายสำคัญที่เอสซีฯ ให้ความใส่ใจ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งครบครันเพียบพร้อมด้วยระบบ Double Premium Security, CCTV, Access Card และ Intercom พร้อมสัญญาณกันขโมยทั้งหลัง อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงสัญญาณผ่านโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย
คุณยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า “จากความสำเร็จของการจัดงาน Love 2 Future ที่บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมาย ทำให้บริษัท ฯ มั่นใจว่า แผนการลอนช์โครงการกรานาดา จะเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ด้วยจุดขายที่โดดเด่นและแนวคิดโครงการที่แตกต่าง จึงเชื่อว่า จะเป็นหนึ่งในแบรนด์บ้านชั้นนำระดับไฮเอนด์ ที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะต้องรู้จักเอสซีฯ
นอกจากนี้เรื่องผลกระทบจากมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทยที่คุมเข้มเรื่องการปล่อยสินเชื่อ บริษัทฯ เชื่อว่า ไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากมาตรการดังกล่าว เพราะกลุ่มลูกค้าของบริษัทเป็นลูกค้าระดับกลางและบนที่มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยด้วยเงินสด หรือใช้เงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ในสัดส่วนที่น้อย รวมทั้งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยไม่ได้ซื้อเพื่อเก็งกำไร ”