บมจ.โกลเบล็ก แนะนักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯสัปดาห์นี้ เตือนอาจส่งผลทางด้านจิตวิทยาต่อราคาทองคำโลก ให้กรอบกลยุทธ์การลงทุน “ทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว” ที่ 1,330-1,385 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์ หรือ 18,850-19,600 บาท/บาททอง
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัทโกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด(มหาชน)หรือGBX เปิดเผยถึงแนวโน้มและทิศทางการลงทุนในตลาดทองคำในสัปดาห์นี้ (22-26 พ.ย.)ว่า กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ แนะนำทยอยสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว โดยให้กรอบการลงทุนที่ 1,330-1,385 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อทรอยออนซ์ หรือ 18,850-19,600 บาท/บาททอง
พร้อมทั้งให้นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ที่คาดว่าจะประกาศตัวเลขออกมาภายในสัปดาห์นี้ ไม่ว่าจะเป็นประมาณก าร GDP ไตรมาส 3/2553 ครั้งที่ 2 และยอดขายบ้านมือสอง รวมถึงยอดการสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดขายบ้านใหม่ และยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ซึ่งจากปัจัยดังกล่าวจะะเป็นตัวแปรให้ราคาทองมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบผันผวนในช่วงกลางสัปดาห์ ดังนั้นนักลงทุนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนให้มาก โดยอาจพิจารณาขายทำกำไรเป็นรอบๆในช่วงที่ราคามีการปรับตัวขึ้นไปเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
อย่างไรก็ตาม หลังจากวิกฤติหนี้สินในฝั่งยุโรปเริ่มคลี่คลาย และจีนออกมาตรการสกัดภาวะเงินเฟ้อในประเทศเบากว่าคาด โดยธนาคารกลางจีนได้เลี่ยงไปใช้วิธีปรับเพิ่มเพดานกันสำรองก่อนปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ อีก 0.5% เป็น 18.5% แทนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้แรงกดดันที่มีต่อเงินสกุลยูโรและสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวมผ่อนคลายลง
ขณะที่ ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการอัดฉีดเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนในการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 2 (QE2) มากขึ้น
ซึ่งการกระทำของเฟดค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการกดดันให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศและค่าเงินตัวเองอยู่ในระดับต่ำ เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และลดปัญหาขาดดุลการค้า รวมถึงอาจต้องการให้เกิดผลกระทบทางอ้อมไปกดดันค่าเงินหยวนของประเทศจีนให้แข็งค่าขึ้น
ทั้งนี้ หากทางการสหรัฐฯยังสงวนท่าทีเช่นนี้ต่อไป การฟื้นตัวของดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) อย่างเป็นรูปธรรมก็คงจะเกิดขึ้นได้ยาก แม้จีนที่เป็นคู่กรณีในสงครามเศรษฐกิจและค่าเงินของสหรัฐฯ จะพยายามลดความร้อนแรงของบรรดาสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์ลงทุนต่างๆ จนทำให้กระแสเงินมีการโยกย้ายไปพักในเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯเป็นระยะๆ ฉะนั้นจึงเชื่อว่า มาตรการ QE2 จะช่วยหนุนให้ราคาทองคำอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อไปจนถึงไตรมาส 1/2554