1. ไทยเร่งเจรจาเปิดการค้าเสรีกับประเทศเปรู |
- นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้มีการลงนามพิธีสาร เพิ่มเติมฉบับที่ 3 ภายใต้พิธีสารระหว่างไทยกับเปรู เพื่อเร่งเปิดเสรีทางการค้าสินค้าและอำนวยความสะดวกทางการค้าปี พ.ศ. 2548 และคาดว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบังคับใช้ความตกลงนี้ได้ภายในต้นปีหน้า โดยไทยจะได้รับประโยชน์จากการที่เปรูยกเลิกภาษีสินค้าทันที รวม 3,985 รายการ หรือร้อยละ 54.2 ของรายการสินค้าทั้งหมด |
. |
คิดเป็นมูลค่าสูงถึงร้อยละ 77.17 ของการนำเข้าเฉลี่ยจากไทยในปี 2549-2552 (132.24 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่ไทยจะยกเลิกภาษีทันทีให้กับการนำเข้าสินค้าจากเปรู จำนวน 3,844 รายการ หรือร้อยละ 46.3 ของรายการทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าร้อยละ 92.16 ของการนำเข้าเฉลี่ยจากเปรูในปี 2549-2552 (70.78 ล้านเหรียญสหรัฐ) |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า การเร่งเปิดเสรีทางการค้าระหว่างไทยและเปรูดังกล่าวถือเป็นการกระจายส่วนแบ่งตลาดการส่งออกของไทยให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยก็ได้กระจายส่วนแบ่งตลาดการส่งออกจากที่มีการกระจุกอยู่กับกลุ่มประเทศ G3 (สหรัฐอเริกา, ยูโรโซน และญี่ปุ่น) มาเป็นการกระจายความเสี่ยง |
. |
โดยการส่งออกไปยังตลาดเกิดใหม่ที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสูงมากขึ้น เช่น จีน อาเซียนตะวันออกกลาง เป็นต้น นอกจากนี้ การตกลงเปิดการค้าเสรีดังกล่าวยังเป็นการเปิดช่องทางให้ไทยขยายตลาดการส่งออกไปยังตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดในภูมิภาคอเมริกาใต้ มากขึ้น |
. |
2. ยอดผลิตรถยนต์ของไทยเดือนต.ค. 53 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 50 ปี |
- นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์ในเดือน ต.ค. 53 อยู่ที่ระดับ 152,689 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.72 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงสุดในประวัติศาสตร์การผลิตรถยนต์ของไทยในรอบ 50 ปี ตั้งแต่มีโรงงานผลิตรถยนต์ในไทยปี 04 |
. |
เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและประเทศคู่ค้าประกอบกับค่ายรถยนต์มีโปรโมชั่นจูงใจลูกค้าที่หลากหลายทั้งด้านการดาวน์รถยนต์ในอัตราต่ำและผ่อนนาน เป็นต้น ส่งผลให้ยอดการผลิตรถยนต์ช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) อยู่ที่ 1.35 ล้านคัน เพิ่มร้อยละ 76.08 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า การผลิตรถยนต์เดือน ต.ค. 53 ที่ขยายตัวในระดับสูง เป็นผลมาจากความต้องการรถยนต์ภายในประเทศที่ยังขยายตัวได้ดี เห็นได้การจำหน่ายรถยนต์ที่ขยายตัวเร่งขึ้นมากในช่วงไตรมาสที่ 3 ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 55.6 ต่อปี และร้อยละ 42.2 ต่อปี ในเดือน ต.ค. 53 |
. |
ประกอบกับอุปสงค์รถยนต์นอกประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่องเช่นกัน โดยการส่งออกรถยนต์ระหว่างเดือน ม.ค. - ก.ย. 53 ขยายตัวถึงร้อยละ 64.51 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยยังคงเป็นผลมาจากการส่งออกไปจีน ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง เป็นสำคัญ |
. |
3. EU ECB และ IMF เตรียมหารือเพื่อประเมินความสามารถการชำระหนี้รัฐบาลไอร์แลนด์ |
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไอร์แลนด์กล่าวว่ากำลังจะร่วมจัดการประชุมร่วมกับสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศถึงเรื่องระบบการเงินและการสร้างความมั่นใจต่อให้กับนักลงทุนและตลาด |
. |
โดยกลุ่มสหภาพยุโรป ธนาคารกลางยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศจะพิจารณาถึงบัญชีของธนาคารไอรแลนด์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของหนี้สาธารณะในครั้งนี้ว่าจะสามารถบริหารจัดความเสี่ยงได้โดยที่ไม่ต้องรับการช่วยเหลือ |
. |
หรือว่าจำเป็นจะต้องรับความช่วยเหลือจากกองทุนเสถียรภาพทางการเงินของยุโรป (European Financial Stability Pack) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีของประเทศไอร์แลนด์กล่าวว่ารัฐบาลยังคงมีความสามารถที่จะชำระหนี้ได้ถึงช่วงกลางปี 2554 อย่างแน่นอน |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า แผนการเข้าร่วมการประชุมเพื่อที่จะดูแลปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในประเทศไอร์แลนด์โดย EU ECB และ IMF ได้ส่งผลให้ตลาดเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 8.327 โดยเป็นการปรับลดลงมากว่า 13 Basis points หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับที่สูงถึงร้อยละ 8.44 ในวันก่อนหน้า |
. |
ทั้งนี้ ความกังวลต่อปัญหาหนี้ดังกล่าวที่เริ่มผ่อนคลายลงได้มีส่วนทำให้เงินลงทุนของต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาในตลาดพันธบัตรของไทยที่ 1,150 ล้านบาทหลังจากที่ได้มีการไหลออกไปอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 วันก่อนหน้าถึงประมาณ 18,000 ล้านบาท |
. |
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง |