พาณิชย์ รุกขยายตลาดสินค้าไทยในละตินอเมริกา ล่าสุดจับมือกับเปรูเซ็นเอฟทีเอ เพิ่มมูลค่าทางการค้าทั้งสองฝ่าย คาดเปิดเสรีด้านบริการและการลงทุนในอีก 1 ปี
นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) |
. |
พาณิชย์ รุกขยายตลาดสินค้าไทยในละตินอเมริกา ล่าสุดจับมือกับเปรูเซ็นเอฟทีเอ เพิ่มมูลค่าทางการค้าทั้งสองฝ่าย คาดเปิดเสรีด้านบริการและการลงทุนในอีก 1 ปี |
. |
นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน รัฐบาลไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมลงนามในพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 3 ร่วมกับเปรู เพื่อเร่งเปิดเสรีทางการค้าสินค้าและอำนวยความสะดวกทางการค้า ซึ่งจะมีผลทันทีตั้งแต่ต้นปี 2554 เป็นต้นไป |
. |
ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญเป็นครั้งแรกกับกลุ่มประเทศละตินอเมริกา โดยการเปิดเสรีครั้งนี้เป็นการเปิดเสรีเพียงร้อยละ 75 คือจะครอบคลุมเฉพาะสินค้าและความอำนวยความสะดวกทางการค้าเท่านั้น ส่วนการเปิดเสรีด้านบริการและการลงทุนนั้น คาดว่าจะใช้เวลาตกลงกันในอีก 1 ปี เช่นเดียวกับความตกลงทางการค้าเสรีระหว่างไทยกับชิลี หรือเอฟทีเอไทย-ชิลี ที่เชื่อว่าจะสามารถเจรจาและลงนามร่วมกันได้ภายในปี 2554 |
. |
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังร่วมลงนามในความตกลงการเปิดเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทยและเปรู ว่า การลงนามในครั้งนี้ถือเป็นเอฟทีเอฉบับแรกในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้มูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 เท่าตัว และภายในต้นปี 2554 จะนำรัฐวิสาหกิจชั้นนำ 20 แห่ง และบริษัทเอกชนอีก 20 แห่งไปเปิดตลาดในละตินอเมริกาอีกครั้ง |
. |
ซึ่งหลังจากการเซ็นเอฟทีเอไทย-เปรูในครั้งนี้ สินค้าส่งออกของไทยที่จะได้รับประโยชน์ทันทีจากการลดภาษีเหลือ 0% ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องซักผ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ขณะที่ไทยจะนำเข้าสินค้าประเภทสินแร่สังกะสี แร่ดีบุก อัญมณี ป่าไม้ ประมง ได้ถูกลง โดยเอฟทีเอระหว่างไทย-เปรูครั้งนี้ยังไม่รวมการเปิดตลาดสินค้าอ่อนไหวของไทย รวมทั้งสินค้าปลาป่น |
. |
“หลังจากลงนามในเอฟทีเอไทย-เปรูแล้ว สินค้าที่เปรูจะยกเลิกภาษีทันทีมีทั้งสิ้น 3,985 รายการ หรือร้อยละ 54.2 ของรายการสินค้าทั้งหมด ขณะที่ไทยจะยกเลิกภาษีนำเข้าจากเปรู รวม 3,844 รายการ หรือร้อยละ 46.3 ของรายการสินค้าทั้งหมด” นายอลงกรณ์กล่าว |
. |
นายคาร์ลอส โปซาดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศและการท่องเที่ยว เปรู กล่าวว่า เชื่อว่าในปีแรกหลังจากเปิดเอฟทีเอระหว่างกันแล้วจะทำให้การค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 และเพิ่มเป็น 10 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า |
. |
โดยมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเปรูที่มีประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มเป็น 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งโอกาสของไทยที่จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านบริษัทท่องเที่ยว อาหาร เป็นต้น ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นเหมือนสปริงบอร์ดของเปรูในการเข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้ด้วย |
. |
ที่มา : สำนักข่าวไทย, เว็บไซต์รัฐบาลไทย |