1. บาทแข็ง-น้ำท่วมฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ต.ค. |
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน ต.ค. 2553 อยู่ที่ 98.7 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 100.8 ซึ่งถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าสูงสุดในรอบ 13 ปี การเกิดอุทกภัย 39 จังหวัดทั่วประเทศ ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบาง |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน ต.ค.53 ที่ปรับตัวลดลง มีสาเหตุสำคัญมาจากผลกระทบของอุทกภัยและวาตภัยที่ทำให้ผลิตผลสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรได้รับความเสียหายและยังส่งผลต่อการจัดส่งสินค้าอุตสาหกรรม ทำให้ผู้ประกอบการมีความวิตกกังวลต่อต้นทุนการประกอบการที่จะปรับเพิ่มขึ้นตามมา ซึ่ง สศค. คาดว่า GDP ของปี 53 ลดลงร้อยละ -0.13 ถึง -0.29 ต่อปี จากกรณีฐาน |
. |
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการส่งออกไทยยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจโลก กอปรกับการได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (ค่าเงินบาทเฉลี่ยเดือน ต.ค. อยู่ที่ 29.93 บาท แข็งค่าขึ้นร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า) ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีปัญหาน้ำท่วมและค่าเงินบาทที่แข็งค่า สศค. ยังมั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถขยายตัวได้ในช่วงร้อยละ 7.3 – 7.8 ต่อปี |
. |
2. บีโอไอเผย 10 เดือนออสเตรเลียลงทุนในไทยขยายตัว 10 เท่า |
- รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าหลังจากที่เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลียมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 48 ส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับออสเตรเลียขยายตัวถึง 3 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 10 เดือนของปีนี้ บีโอไออนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนจากออสเตรเลียจำนวน 16 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 6,071 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมากเมื่อกับปีที่ผ่านมามีประมาณ 546 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า การส่งออกของไทยไปยังออสเตรเลียจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนแรกปี 53 การค้าระหว่างไทยและออสเตรเลียมีมูลค่า 366,648.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 20.25 โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลียมูลค่า 231,844.61 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.05 และนำเข้าจากออสเตรเลีย 134,804.32 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.05 |
. |
ทำให้ไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 97,040.29 ล้านบาท ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปออสเตรเลีย 3 อันดับแรก ได้แก่ (1) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (2) อัญมณีและเครื่องประดับ (3) เหล็กและเหล็กกล้า |
. |
จากข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลียทำให้ไทยได้ประโยชน์จากอัตราภาษีสินค้านำเข้าออสเตรเลียในหมวดรถยนต์ รถปิกอัพและรถบรรทุกจากอัตราภาษีที่เหลือร้อยละ 0 ซึ่งอนิสงค์จากข้อตกลงดังกล่าวช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคาสินค้าในหมวดดังกล่าวของไทยให้สูงขึ้น ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดในระยะถัดไป |
. |
3. ธนาคารกลางเกาหลีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย |
- สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าธนาคารกลางเกาหลีได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.5 (เดิมที่ในอัตราร้อยละ 2.25) สืบเนื่องจากแรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ที่ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.1 ณ เดือน ต.ค. 53 ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้น ของราคาอาหาร |
. |
ประกอบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจเกาหลีอยู่ในระดับสูงในช่วงไตรมาส 2 ที่ร้อยละ 7.1 นอกจากนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการเพื่อจูงใจให้เกิดการออมเพิ่มขึ้น |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่าการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางเกาหลีเป็นผลมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อทั่วไป โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ต.ค. 53 ปรับตัวสูงขึ้นที่ร้อยละ 4.1 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. 53 ที่ร้อยละ 3.6 ต่อปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลี ซึ่ง GDP ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 53 เกาหลีขยายตัวร้อยละ 7.1 ต่อปี |
. |
อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้จะมีผลต่อการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินวอนแข็งค่าเพิ่มมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อการส่งออกในที่สุด ทั้งนี้ สศค. คาดว่าเศรษฐกิจเกาหลีในปี 53 จะสามารถขยายตัวได้ที่ร้อยละ 6.2 ต่อ |
. |
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง |