ทูตพาณิชย์วิเคราะห์ QE2 เตือนทุกประเทศรับมือ เผยผู้นำเข้าจะปรับรูปแบบการสั่งสินค้าอีกระลอก แนะผู้ส่งออกเลี่ยงผลกระทบค่าเงิน ต้องสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้า เชื่อมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีผุดเพียบ
นางสมจินต์ เปล่งขำ |
. |
ทูตพาณิชย์วิเคราะห์ QE2 เตือนทุกประเทศรับมือ เผยผู้นำเข้าจะปรับรูปแบบการสั่งสินค้าอีกระลอก แนะผู้ส่งออกเลี่ยงผลกระทบค่าเงิน ต้องสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้า เชื่อมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีผุดเพียบ |
. |
นางสมจินต์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ เปิดเผยถึงกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯได้ประกาศนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ รอบที่สอง (QE2) ทำให้หลายฝ่ายวิตกว่า เหตุที่สหรัฐฯทำเช่นนี้ เพื่อเปิดสงครามกับจีน ในการกดดันให้จีนเพิ่มค่าเงินหยวน |
. |
ดังนั้นประเทศไทยและประเทศอื่นทั่วโลก(ยกเว้นจีน) จะต้องเตรียมรับสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นของการอ่อนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2554 ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ “คนอเมริกันเกือบ15 ล้านคนยังคงตกงาน และถึงแม้สหรัฐฯจะเป็นประเทศบริโภคนิยม แต่ถ้าการว่างงานสูงและประชาชนวิตกว่าจะไม่มีรายได้ในอนาคตมาใช้จ่าย จะทำให้การบริโภคลดต่ำลง และหมายถึงสินค้านำเข้าจะลดลงด้วย |
. |
รวมทั้งยังมีผลกระทบต่อรูปแบบทางการค้าด้วย เช่น การสั่งซื้อสินค้าต่อครั้งมีปริมาณที่ลดลง และ เครดิตสินค้ายาวขึ้น จนหลายครั้ง ผู้ส่งออกไทยไม่ สามารทำธุรกิจด้วยได้ ดังนั้นผู้ส่งออกควรคำนึงถึงปัจจัยข้อนี้เมื่อเจรจาธุรกิจกับผู้นำเข้าสหรัฐฯ” แนวทางการส่งเสริมการค้าในปี 2554 ผู้ประกอบการไทยความสามารถในการแข่งขันเพื่อเข้าสู่ตลาด |
. |
ต้องยกระดับความสามารถในการผลิตและการตลาดเพื่อการส่งออกให้สูงขึ้น การส่งออกมาตลาดสหรัฐฯ สิ่งสำคัญคือการควบคุมมาตรฐานสินค้าให้เป็นไปตามข้อตกลงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้า ไม่นำมาใช้กีดกันการค้า เช่น มาตรฐานในเรื่องสุขอนามัย HACCP มาตรฐานการผลิตสินค้าฮาลาล(HALAL) หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับสินค้า GMOs |
. |
และควรคำนึงถึงข้อกำหนดอื่นๆ ที่อาจนำมาใช้ในการกีดกันการนำเข้าสินค้า เช่น การผลิตที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้แรงงานเด็ก (Child Labor) การให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ในระหว่างเลี้ยงหรือก่อนการนำไปแปรรูป เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท และรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว |
. |
นอกจากติดตามสถานการณ์ค่าเงินอย่างต่อเนื่องแล้ว ผู้ส่งออกควรพิจารณากระจายตลาดส่งออก อย่าไปกระจุกรับออร์เดอร์อยู่กับประเทศเดียว หรือ พึ่งพาตลาดส่งออกตลาดเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นตลาดใหญ่ก็ตาม เพราะจะเกิดความเสี่ยงสูงหากเกิดเหตุการณ์เศรษฐกิจล้มเหลวในประเทศนั้น “การพัฒนาคุณภาพเพื่อยกระดับสินค้าเป็นสิ่งสำคัญในระยะยาว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแข่งขันกับคู่แข่งด้านราคาเพียงอย่างเดียว |
. |
การสร้างความแข่งแกร่งในตลาดใหม่ที่มีความสำคัญ อาทิ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน โดยปรับบทบาทสร้างพันธมิตรในตลาดส่งออก (Export alliance) หรือการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อแสวงหาตลาดใหม่ที่เอื้อต่อฐานการผลิตในไทยด้วย”นางสมจินต์ กล่าว สำหรับช่องทางการค้าในตลาดสหรัฐ เนื่องจากสินค้าทุกประเภทมีรายละเอียดหลากหลาย และสหรัฐฯเป็นประเทศที่มีผู้บริโภคหลากหลายความต้องการและหลายเชื้อชาติ |
. |
ดังนั้น การศึกษาตลาด และการหาข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของการเข้าตลาด โดยช่องทางการค้าของทุกสินค้ามีลักษณะคล้ายคลึงกันประการหนึ่ง (ยกเว้นสินค้าอาหาร) คือ ผู้ส่งออกควรจะต้องหาคู่ค้าเสียก่อน สำหรับสหรัฐฯการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าควรเป็นกิจกรรมที่จะทำก็ต่อ เมื่อผู้ส่งออกมีคู่ค้า หรือ โชว์รูมแล้ว เนื่องจากปัจจัยหลักที่สำคัญต่อการค้า คือ การส่งสินค้าได้ในเวลาที่รวดเร็ว ปัจจุบันหลายบริษัท |
. |
โดยเฉพาะบริษัทที่มีอำนาจในการซื้อ จะลดค่าใช้จ่ายโดยการไม่เก็บสต็อกสินค้าเอง จะให้ผู้ขาย(ซัพพลายเออร์) เป็นผู้เก็บสินค้า และให้ส่งให้ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งอยู่ในเวลาระหว่าง 1-2 สัปดาห์ สถานการณ์การค้าของไทยกับสหรัฐฯ ในปีนี้ ยังคงมีความสัมพันธ์อันดีกับไทยในฐานะประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย มูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ มค.-กย. 2553 เพิ่มขึ้น 24.9 % และคาดว่าการส่งออกทั้งปีนี้จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 20% |
. |
โดยสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักร, ยางพารา, อัญมณี และ อาหาร สินค้าที่น่าจับตามองคือ อัญมณีและเครื่องประดับ ขยายตัวถึง 46% และมีสัดส่วนตลาดถึง 5% แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้บริโภคมีการปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อเครื่องประดับที่มีราคาไม่แพงมากนัก แต่มีการออกแบบที่ดูดี |
. |
ดังนั้นสินค้าที่คาดว่าจะเป็นที่นิยมในปี 2554 ได้แก่ Silver Jewelry และ Costume Jewelry อย่างไรก็ตามการส่งออกของไทยมายังสหรัฐฯ จะมีอุปสรรคเพิ่มขึ้นจากการที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนตัวลงอีก โอกาสและช่องทางการค้าของผู้ส่งออกไทย สินค้าที่มีศักยภาพที่ ได้แก่ |
. |
สินค้าประเภทอาหารสำหรับคนเอเซีย เช่น ข้าว กุ้งแช่แข็ง เส้นก๋วยเตี๋ยว กะทิ ซอสปรุงรส อาหารกึ่งสำเร็จรูปและสำเร็จรูป เป็นต้น สินค้าอาหารฮิสแปนิก สินค้าประเภทอัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าของประดับและตกแต่งบ้านที่มีดีไซน์ สินค้าแฟชั่น (เสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าสตรี และเครื่องประดับที่มีดีไซน์) ร้านอาหารไทย สินค้าสำหรับตลาด Institution เช่น เรือสำราญ โรงพยาบาล โรงเรียน สนามกีฬา เรือนจำ หน่วยงานทหาร เป็นต้น |