คอนวูด  เปิดแผนกลยุทธ์การตลาด เน้นสร้างแบรนด์ พร้อมเพิ่มช่องทางตลาดขยายตัวแทนจำหน่าย  และพัฒนาผลิตภัณฑ์ หวังติดกลุ่มผู้นำผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ไปอีกนาน  ผู้บริหารมั่นใจไม่เกิน 5 ปี ตราสินค้าอยู่ในใจผู้บริโภคได้แน่นอน เตรียมเจาะตลาดเพื่อนบ้านเวียดนามและกัมพูชา

บริษัท คอนวูด จำกัด ในเครือ ปูนซิเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)  ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ชั้นนำของประเทศไทย ที่มีความแข็งแรงทนทาน และมีกระบวนการผลิตที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำผู้บริหารระดับสูงร่วมเปิดวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การตลาดในปี 2550 พร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้แนวคิดของการเปิดรับธรรมชาติสู่ชีวิต หวังเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

นายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด ผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ จำพวกไม้เชิงชาย ไม้ระแนง ไม้บัวพื้นและไม้ฝา ชั้นจำของประเทศไทย เปิดเผยถึงกลยุทธ์กาตลาดปี 2550 ว่า บริษัทฯ จะเน้นให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์เป็นหลัก โดยได้ตั้งเป้าหมายไว้อีก 5 ปี ข้างหน้า แบรนด์ของคอนวูด จะเข้าไปอยู่ในในของผู้บริโภค และก้าวสู่ความเป็นผู้นำตลาดที่ได้รับการยอมรับ

ปัจจุบัน ตลาดวัดสุทดแทนไม้ ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่าตลาดรวมสูงกว่า 10,000 ล้านบาท ทำให้ภาวการณ์แข่งขันสูงขึ้นตามด้วย ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ผู้ผลิตแต่ละค่ายต่างชูกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด

นอกจากการมุ่งสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักแล้ว บริษัทฯ ยังเสริมการตลาดด้วยการใกล้ชิดกับเจ้าของบ้านให้มากขึ้น รวมทั้งกลุ่มสถาปนิกและเจ้าของโครงการซึ่งจะเน้นการอธิบายถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเป็นผู้นำทางด้านราคา เนื่องจากคอนวูดไม่มีนโยบายลดราคาแข่งกับใคร นายสุทธิพันธ์ กล่าว

บริษัท คอนวูด จำกัด เป็นบริษัทในเครือปูนซีเมนต์นครหลวง ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ชั้นแนวหน้าของไทย หนึ่งในกลุ่มบริษัท โฮมซิม แห่งประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ได้ตระหนักอยู่เสมอ ถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เป็นการทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริษัทจึงคัดเลือกเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้วัตถุดิบที่ปราศจากสารพิศ มีกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประโยชน์สูงสุด เป็นการช่วยลดปัญหามลภาวะเป็นพิษที่อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากการผลิตของโรงงาน รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์คอนวูด เป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าไม้ในที่สุด ไม้คอนวูด สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก คือ ไม้เชิงชาย ไม้ระแนง ไม้บัวพื้น และไม้ผนังบังใบ

ทั้งนี้ บริษัท เป็นผู้นำตลาดไม้เชิงชายโดยมาร์เก็ตแชร์อยู่ประมาณ 50%ของมูลค่าตลาดรวมกว่า 2,000 ล้านบาท และด้วยคุณสมบัติของไม้คอนวูด เป็นผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์คุณภาพสูง ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงผ่านการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน ทั้งปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ และเยื่อเซลลูโลส ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ความสวยงาม ทนทาน ใช้งานได้เหมือนไม้ธรรมชาติ ดูนิ่มนวมเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าแบบเดียวกันอีกด้วย

นายธงชัย กมลพัฒนะ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท คอนวูด จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์สำคัญของบริษัทฯ จะเน้นการขายสินค้าเข้าโครงการเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่มีระดับราคาเฉลี่ย 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่บริษัทต้องเจาะเข้าไป รวมถึงการขยายตลาดเข้าสู่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งอาจจะอาศัยตัวแทนจำหน่ายของปูนซีเมนต์นครหลวงที่มีอยู่ในกลุ่มประเทศดังกล่าวด้วย

ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ปีละ 90,000 ตันต่อปี โดย 75% เป็นสินค้าที่ผลิตอยู่ในปัจจุบัน ส่วนอีก 25% จะนำไปผลิตสินค้าใหม่ ได้แก่ ไม้ผนังบังใบ ไม้รั้ว ไม้บันได ไม้ระแนง และไม้ฝา โดยมีผู้แทนจำหน่ายประมาณ 250 ราย และมีช่องทางการจำหน่ายเน้น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ จำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย 95% และโมเดิร์นเทรด ในรูปแบบของโฮมเซ็นเตอร์ 5% มีสินค้าหลักที่สร้างยอดขายให้บริษัท ได้แก่ ไม้เชิงชาย และไม้ระแนง ในอนาคตบริษัทฯ เน้นกลุ่มตลาดกลางและตลาดบนทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตามหัวเมืองใหญ่หลัก ๆ  เช่น เชียงใหม่ อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น ภูเก็ต ชลบุรี  นายธงชัย กล่าว

ด้านนายปมุข ศุภสาร ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารและกิจกรรมการตลาด บริษัท คอนวูด จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะรุกสร้างแบรนด์สินค้าในกลุ่มนี้อย่างหนัก โดยเน้นให้ความสำคัญกับการสื่อสารเรื่องของมูลค่าของตัวผลิตภัณฑ์เป็นหลัก รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือขององค์กรควบคู่ไปด้วย

บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ 3-5 ปี ในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รบรู้ในตลาดมากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดบริษัทฯ เตรียมภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ที่เน้นคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยนำไม้เชิงชายคอนวูดซึ่งทางบริษัทฯ เป็นผู้นำตลาดมาโฆษณาสื่อสารกับผู้บริโภค เพื่อกระตุ้นใหม่เกิดการรับรู้แบรนด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับการจัดสัมมนา หรือเขียนบทความเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ นายปมุข กล่าว