บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เตรียมแผนเสนอประมูลไอพีพี เชื้อเพลิงถ่านหิน เหตุคู่แข่งน้อยและมั่นใจเทคโนโลยีสะอาด ส่วนผลประกอบการปี 50 คาดกำไรเพิ่มขึ้นแน่นอน
สำนักข่าวไทยรายงานข่าว บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เตรียมแผนเสนอประมูลไอพีพี เชื้อเพลิงถ่านหิน เหตุคู่แข่งน้อยและมั่นใจเทคโนโลยีสะอาด ส่วนผลประกอบการปี 50 คาดกำไรเพิ่มขึ้น พร้อมประกาศจ่ายปันผลปี 2549 วงเงิน 0.12 สตางค์/หุ้น |
. |
นายปิติ ยิ้มประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ IRPC กล่าวว่า สนใจจะเข้าร่วมประมูลโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนรายใหญ่ ( IPP) รอบใหม่ โดยจะเสนอการผลิตไฟฟ้าที่โดยถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง คาดว่าจะมีกำลังผลิตไม่น้อยกว่า 800 เมกะวัตต์ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 1.2 ล้านดอลลาร์/เมกะวัตต์ สาเหตุที่ต้องการใช้ถ่านหินเ พราะมั่นใจเรื่องเทคโนโลยีสะอาด ประกอบกับถ่านหินเป็นโครงการใหม่ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง และไออาร์พีซี มีความพร้อมที่จะทำได้ |
. |
นายปิติ กล่าวด้วยว่า ในปีนี้ IRPC ไม่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะทำให้ไม่กระทบกำไร และคาดว่ากำไรสุทธิปีนี้น่าจะสูงกว่าปีก่อน ขณะเดียวกันก็ได้บริหารจัดการเรื่องของน้ำมันดิบ ทำให้การผลิตเพิ่มขึ้น โดยปีนี้จะเดินเครื่องกลั่นน้ำมันในระดับ 190,000 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 180,000 บาร์เรล/วัน ในปีก่อน ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรรวม ซึ่งรวมถึงธุรกิจกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมี จะอยู่ระดับใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 10 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะแม้ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นโดยรวมมีแนวโน้มอ่อนตัวลง แต่บริษัทได้บริหารประสิทธิภาพการสั่งซื้อน้ำมันดิบ เพื่อให้เหมาะสมกับกระบวนการผลิตมากยิ่งขึ้น โดยสั่งซื้อน้ำมันดิบผ่านกลุ่ม บมจ.ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทแม่ รวมถึงมีความร่วมมือกับกลุ่มปตท.ซึ่งจะทำให้ประหยัดต้นทุนลงได้ราว 2,000-2,600 ล้านบาท/ปี |
. |
สำหรับงบลงทุนช่วง 5 ปี (ปี 2550-2554) มีประมาณ 1,300-1,400 ล้านดอลลาร์นั้น ระยะแรกจะขยายกำลังผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) ชนิดพิเศษ เป็น 56,000ตัน/ปี จาก 16,000 ตัน/ปี เงินลงทุนประมาณ 12 ล้านดอลลาร์ ขยายกำลังผลิตเม็ดพลาสติก ABS เป็น 117,000 ตัน/ปี จาก 96,000 ตัน/ปี ใช้เงินราว 10 ล้านดอลลาร์ ทั้งสองโครงการคาดจะเสร็จในปี 2551 โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 200 เมกะวัตต์ จากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2553 และยังมีโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และความปลอดภัย ใช้เงินลงทุนประมาณ 261 ล้านดอลลาร์ ส่วนระยะที่ 2 จะมี 4 โครงการ ได้แก่ ปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน EURO 4 ด้วยเงินลงทุน 360 ล้านดอลลาร์ ปรับปรุงคุณภาพวัตถุดิบผลิตปิโตรเคมี มูลค่า 620 ล้านดอลลาร์ ขยายกำลังผลิตโพรพิลีน มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ และลงทุนขุดลอกท่าเรือน้ำลึก 40 ล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับระวางบรรทุกน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรล |
. |
สำหรับผลประกอบการในปี 2549 ว่า ไออาร์พีซี มีรายได้ 205,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.74 มีต้นทุนขาย 182,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ14.75 และมีกำไรสุทธิ 6,823 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 88.98 สาเหตุของผลกำไรสุทธิที่ลดลง เนื่องจากต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารเพิ่มสูงขึ้น และเมื่อไตรมาส 4/2549 บริษัทฯ ได้ปิดโรงงานเพื่อซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ประมาณ 35 วัน นอกจากนั้น ในปี 2548 บริษัทฯ ได้บันทึกกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 35,558.89 ล้านบาท กำไรจากการขายเงินลงทุนระยะยาวจำนวน 18,206.67 ล้านบาท เป็นผลให้ปี 2548 มีกำไรจากรายการพิเศษ 53,765.56 ล้านบาท ขณะที่ปี 2549 ไม่มีรายการดังกล่าว และจากที่ไออาร์พีซีไม่มีการจ่ายปันผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมานานแล้ว ดังนั้น แม้ว่าผลประกอบการปีที่ผ่านมาลดลง แต่บริษัทฯ ยังคงพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยบริษัทฯ จะเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2550 จ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 36.4 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย. |