สนพ. จับมือสภาอุตสาหกรรมฯ ขยายเครือข่ายประหยัดพลังงานภาคขนส่ง ทุ่มงบกว่า 33.7 ล้านบาท ระดมทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา และอบรม หวังเพิ่มศักยภาพและพัฒนาระบบขนส่งแบบยั่งยืน
. |
สนพ. จับมือสภาอุตสาหกรรมฯ ขยายเครือข่ายประหยัดพลังงานภาคขนส่ง ทุ่มงบกว่า 33.7 ล้านบาท ระดมทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา และอบรม หวังเพิ่มศักยภาพและพัฒนาระบบขนส่งแบบยั่งยืน ประหยัดพลังงาน คาดลดใช้น้ำมันได้ 96 ล้านบาทต่อปี |
. |
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แต่ละปีมีการใช้พลังงานในภาคขนส่งทางบกสูงถึงร้อยละ 80.7 ของการใช้พลังงานในภาคขนส่งทั้งหมดของประเทศ ประกอบกับความต้องการใช้พลังงานมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง |
. |
ซึ่งสนพ.มีเป้าหมายในการลดการใช้พลังงานในภาคขนส่ง โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการจราจรและขนส่ง ทั้งการขนส่งคนและการขนส่งสินค้า โดยเฉพาะในส่วนของการขนส่งคน ได้ส่งเสริมการลงทุน ในโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนซึ่งเป็นระบบขนส่งหลักของประเทศ |
. |
ทั้งนี้ ในปี 2551 ที่ผ่านมาจากการร่วมมือระหว่างสำนักงานนโยบายและ แผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน กับสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (สอท.)ได้จัดทำแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 2 โครงการ ได้แก่ |
. |
1.โครงการส่งเสริมระบบบริหารจัดการขนส่งเพื่อการประหยัดพลังงาน โดยได้นำระบบการบริหารจัดการเดินรถ การปรับพฤติกรรมการขับ และการนำเทคโนโลยีมาใช้ ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจำนวน 25 ราย สามารถลดการใช้น้ำมันดีเซลลงได้ 180,000 ลิตร ต่อปี คิดเป็นมูลค่า 5 ล้านบาทต่อปี |
. |
2.โครงการส่งเสริมการขับขี่ยานพาหนะ เพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งได้จัดอบรมสัมมนาให้แก่ผู้ขับขี่รถบรรทุกในพื้นที่ 5 ภูมิภาค จำนวน 7 จังหวัด ทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ ลพบุรี นครราชสีมา อุดรธานี นครสวรรค์ ระยอง และสงขลา โดยพบว่าสามารถสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการขับขี่อย่างถูกวิธีให้กับผู้อบรมเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 80 |
. |
ซึ่งจากผลการดำเนินโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการขนส่งจำนวนมาก ดังนั้นในปี 2553 สนพ.จึงสนับสนุนงบประมาณ 33.7 ล้านบาท ให้กับส.อ.ท.เพื่อเป็นการขยายเครือข่ายลดใช้พลังงานในภาคขนส่งให้กว้างขวางมากขึ้น แบ่งเป็น 1.โครงการส่งเสริมระบบบริหารจัดการขนส่งฯ จำนวน 25 ล้านบาท |
. |
โดยดำเนินการจัดส่งทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาลดการใช้พลังงานภาคขนส่งเพิ่มจากเดิม 25 ราย เป็น 100 ราย ในระยะเวลา 15 เดือน เพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบบริหารจัดการคุณภาพการใช้เชื้อเพลิงด้านการขนส่งให้กับผู้ประกอบการ |
. |
2.โครงการส่งเสริมการขับขี่ยานพาหนะเพื่อประหยัดพลังงาน จำนวน 8.7 ล้านบาท โดยดำเนินการจัดอบรมให้ความรู้ความเข้าใจ แก่บุคลากรของผู้ประกอบการขนส่งจากเดิม 1,000 คน เป็น 3,000 คน เพื่อสร้างจิตสำนึกขับขี่ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน |
. |
“การพัฒนาระบบขนส่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งได้ถึงร้อยละ 10 ซึ่งการส่งทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญเฉพาะด้านในการให้คำแนะนำแนวทางการปฏิบัติ แนวทางการพัฒนาระบบบริหารจัดการขนส่ง รวมถึงการอบรมให้ข้อมูลความรู้แก่ผู้ขับขี่เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่งผลให้เกิดการใช้พลังงาน อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะช่วยประหยัดน้ำมันได้ไม่น้อยกว่า 96 ล้านบาทต่อปี”นายวีระพล กล่าว |