เนื้อหาวันที่ : 2010-10-07 14:24:01 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 579 views

ไทยติด Top5 การกำกับดูแลกิจการ บจ. มีพัฒนาการดีที่สุด

ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ("IOD”) สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และสมาคมบริษัท จดทะเบียนไทย ร่วมกันประกาศความสำเร็จหลัง Asian Corporate Governance Association (“ACGA”) และ CLSA Asia-Pacific Markets 

.

ประกาศผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการของประเทศในเอเชียหรือที่เรียกกันว่า CG Watch เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ประเทศไทยขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 4 จาก 11 ประเทศ และได้รับยกย่องว่ามีพัฒนาการดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

.

นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ในการสำรวจครั้งที่แล้วเมื่อปี 2550 ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 8 คราวนี้เรามีพัฒนาการดีขึ้นมาก โดยขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 นับว่าสูงสุดตั้งแต่มีการจัดทำรายงาน CG Watch เมื่อปี 2544 ซึ่งความน่าภาคภูมิใจครั้งนี้มาจากความร่วมมือของทุกฝ่ายในตลาดทุนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา

.

อย่างน้อยผลสำรวจก็ชี้ให้เห็นว่า ความพยายามของหน่วยงานต่าง ๆ ในการยกระดับการกำกับดูแลกิการของ บจ. ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ผลเป็นที่น่าพอใจ  การที่ประเทศไทยได้อยู่ในระดับ Top5 ของการสำรวจครั้งนี้ก็เป็นเครื่องชี้วัดได้ว่าภาพลักษณ์เรื่องการกำกับดูแลกิจการของ บจ. ไทยในสายตาต่างชาติอยู่ในระดับที่ทัดเทียมกับมาตรฐานสากลในระดับหนึ่งแล้ว

.

การสำรวจครั้งนี้ ผู้สำรวจให้น้ำหนักกับการที่ไทยมีการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนที่สะท้อนให้เห็นนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาตลาดทุนอย่างจริงจัง มีการแก้ไขกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อรองรับการยกระดับการกำกับดูแลกิจการ

.

เช่น การกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของกรรมการและผู้บริหารให้ชัดเจน การกำหนดบทคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสแก่ทางการ เป็นต้น ทั้งนี้ในการจัดทำรายงานนี้ ผู้สำรวจมิได้พิจารณาเพียงกฎหมายหรือกฎเกณฑ์เท่านั้น แต่ได้ให้ความสำคัญกับการปฎิบัติของ บจ. ด้วย

.

โดย บจ. ไทยได้รับคำชมเป็นพิเศษในเรื่องต่าง ๆ ที่ บจ. ถือปฏิบัติทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีกฎหมายหรือกฎเกณฑ์บังคับ เช่น วิธีปฏิบัติที่ดี ในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี โดยเฉพาะในเรื่องการใช้บัตรลงคะแนน และการประกาศผลการนับคะแนนในการประชุมอย่างรวดเร็วภายในวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ในรายงานยังกล่าวถึงบทบาทของผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายย่อยว่า มีส่วนอย่างมากในการช่วยพัฒนาการกำกับดูแลกิจการ ของ บจ. ให้ดีขึ้น...”

.

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา อนุกรรมการ ศูนย์พัฒนาการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นองค์กรหนึ่งที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ บจ. โดยได้จัดทำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี  

.

เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติ และจัดตั้งศูนย์พัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีไปปฏิบัติบริษัทจดทะเบียน หรือ CG Center เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำแก่ บจ. และจัดกิจกรรมให้ความรู้ พร้อมทั้งผลักดันให้นำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีไปปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จ ...ผลการสำรวจในครั้งนี้ที่แสดงว่า ประเทศไทยมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมากจึงเป็นเครื่องยืนยันว่าการดำเนินการต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมา เราได้เดินมาถูกทางแล้ว”

.

นายชาญชัย จารุวัสตร์ กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย กล่าวว่า “ภารกิจของ IOD คือ การพัฒนาและให้การสนับสนุนกรรมการเพื่อการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่ง IOD ได้จัดกิจกรรมหลักสูตรการอบรมและสัมมนาต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้แก่กรรมการ และยังได้ริเริ่ม “โครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย” หรือ CGR (corporate Governance Report of Thai Listed Companies)

.

ซึ่งมีผลกระตุ้นให้ บจ. เห็นถึงความสำคัญและพยายามพัฒนาการกำกับดูแลกิจการให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเห็นได้จากคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 50 ในปีแรกของโครงการ พัฒนาขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 82 ในปี 2552 นอกจากนี้ IOD ยังมีส่วนช่วยสนับสนุนคณะกรรมการของ บจ. ในแง่ของการสรรหากรรมการที่มีคุณภาพ

.

โดยจัดทำทำเนียบกรรมการและกรรมการอาชีพในทำเนียบ IOD ไว้เป็นฐานข้อมูล และในแง่ของการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ IOD ได้จัดทำและเผยแพร่คู่มือและแนวปฏิบัติในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ IOD ได้ร่วมกับ ก.ล.ต. ในการจัดทำคู่มือคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ ของคณะกรรมการตรวจสอบ โดยคาดว่าจะเผยแพร่ได้ภายในสิ้นปีนี้"

.

ท้ายที่สุด นายชาลีกล่าวสรุปว่า “การที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากต่างชาติ และมีภาพลักษณ์ ที่ดีขึ้นมากในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนและความร่วมมือร่วมใจ จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริง ๆ

.

แต่ที่ยากยิ่งกว่านี้อีก คือ การพยายามรักษาระดับที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้ ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นในอนาคต ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันดำเนินการในเรื่องที่ดีอยู่แล้วต่อไป และเรื่องใด ที่ต้องปรับปรุง ก็ต้องเร่งดำเนินการควบคู่กันไปด้วย”