|
นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร |
| . |
|
นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านการตลาด บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ผู้นำด้านอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย เปิดเผยว่า ซีพีเอฟได้ตกลงให้การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ |
| . |
|
ซึ่งนับเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ที่เคยให้การสนับสนุนด้านกีฬามา อย่างเป็นทางการตลอดกิจกรรมการแข่งขันประจำปี 2554 โดยคาดว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้า และเพิ่มความถี่ในการบริโภคอาหารแปรรูปจาก 1 – 1.5 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็น 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และตอกย้ำความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย ตามมาตรฐานสากล ภายใต้แบรนด์ CP |
| . |
|
“โดยปกติแผนทางการตลาดของซีพีเอฟ ก็จะให้ความสำคัญกับการให้การสนับสนุนด้านกีฬาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย หรือมวยสากลที่จัดควบคู่กับคาราวานสินค้าราคาพิเศษลดค่าครองชีพ (CPF DAY) กอล์ฟ เทนนิส หรือแม้แต่ฟุตบอล ที่ถือได้ว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกันของผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ CP |
| . |
|
เนื่องจากเป็นผู้ที่ต้องการทั้งคุณประโยชน์และพลังงาน ทั้งอาหารยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งและแข็งแรงให้แก่ร่างกาย โดยเท่าที่ผ่านมาได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดีจากทางลูกค้า และเมื่อนับรวมถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและชื่นชอบกีฬาฟุตบอลแล้ว |
| . |
|
การให้การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ ซึ่งเป็นทีมที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว และได้รับความนิยมจากแฟนบอลจำนวนมาก จึงเป็นแนวทางในการขยายฐานสินค้าให้เป็นที่รู้จัก ตลอดจนรับรู้คุณประโยชน์และคุณค่าของผลิตภัณฑ์อาหารแบรนด์ CP ในกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ ได้มากยิ่งขึ้น” นายสุพัฒน์กล่าวและว่า |
| . |
| . |
|
นอกเหนือจากการทำการตลาดผ่านทีมสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ พีอีเอ แล้ว ในระหว่างการให้การสนับสนุนยังจะมีการทำการตลาด Below the line เพื่อกระตุ้นยอดขาย ผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในรูปแบบ In-Store Marketing และ In-Store Promotion อีกด้วย |
| . |
|
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจโดยเนลสัน ในปีที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ครองส่วนแบ่งการตลาด 37% ถือเป็นอันดับหนึ่งในตลาดอาหารแช่แข็ง ที่จำหน่ายผ่านทางโมเดิร์นเทรด ซึ่งจัดได้ว่าผลิตภัณฑ์แบรนด์ CP ค่อนข้างประสบความสำเร็จในแง่การเป็นที่รู้จักของผู้บริโภค |
| . |
|
จากนี้จึงจะเดินหน้ารุกทำการตลาดโดยมุ่งตอกย้ำจุดเด่นคุณภาพสินค้า ปลอดภัย ควบคู่กับการการสร้างแบรนด์ ผ่านกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าภายในปี 2553 นี้จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้เป็น 45% ได้สำเร็จ โดยเฉพาะจากหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดำเนินการ คือการทำ Sport Marketing |
| . |
|
นอกจากนี้ นายสุพัฒน์กล่าวด้วยว่า ซีพีเอฟจะยังคงเน้นให้ความสำคัญกับการ Sport Marketing เป็นสำคัญ ด้วยเล็งเห็นการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คือหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพ เช่นการออกกำลังกาย หรือการเล่นกีฬาในรูปแบบต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ซีพีเอฟจึงยินดีที่จะให้การสนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้ เพื่อเป็นการคืนกำไรกลับไปสู่สังคม |
| . |
|
ซีพีเอฟ ผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารของไทย ได้มีการลงทุนและพัฒนามาตรฐานกระบวนการผลิตและแปรรูปอาหารมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ไปจนถึงแปรรูปเป็นอาหาร หรือที่เรียกว่า “FROM FARM TO TABLE” และได้รับมาตรฐานสากลต่างๆ อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น GMP, HACCP, ISO 9002, ISO14001, TIS18001 และ ISO 17025 |
Thailandindustrycom_official
