กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย ร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมการเพาะปลูกประเทศศรีลังกา ในการพัฒนาการปลูกอ้อยและยางพารา หวังพัฒนาการค้าการลงทุนระหว่างกัน |
. |
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ นายมาฮินดา สมราสิงเห รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมการเพาะปลูก ประเทศศรีลังกา ว่า ได้หารือกันเรื่องความร่วมมือในการพัฒนาการปลูกอ้อยและยางพารา ซึ่งประเทศศรีลังกาให้ความสนใจมาก เนื่องจากไทยมีความชำนาญและเชี่ยวชาญ ซึ่งในหลักการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมที่จะมีความร่วมมือทางวิชาการในเรื่องนี้กับศรีลังกา ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกอ้อยประมาณ 6.3 ล้านไร่ มีผลผลิตอ้อยประมาณ 69 ล้านตันต่อปี |
. |
ขณะที่ยางพาราเป็นพืชยืนต้นอุตสาหกรรมที่สำคัญของไทย ในปี 2551 มีพื้นที่การปลูกยางพาราประมาณ 16.89 ล้านไร่ ก่อให้เกิดกิจกรรมต่อเนื่องทั้งภาคการผลิตทางการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคการตลาด มีผลผลิตยางดิบประมาณ 3.09 ล้านตัน ก่อให้เกิดรายได้ 402,563 ล้านบาทจากการส่งออกยางดิบ ผลิตภัณฑ์ยาง และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ไม้ยางพารา |
. |
สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างไทย-ศรีลังกา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ไทยสามารถส่งออกสินค้าเกษตรไปศรีลังกาเพิ่มขึ้นจาก 1,914 ล้านบาท ในปี 2550 เป็น 3,361 ล้านบาท ในปี 2552 ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้า สินค้าเกษตรส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ น้ำตาลและผลิตภัณฑ์ ปลาและสัตว์น้ำ อาหารปรุงแต่ง ของปรุงแต่งจากธัญพืช และพืชผัก เป็นต้น |
. |
สินค้าเกษตรนำเข้าจากศรีลังกา ส่วนใหญ่เป็นสินค้าผลิตภัณฑ์แป้งจากธัญพืช ซึ่งมีมูลค่านำเข้าประมาณ 53 ล้านบาท ในปี 2552 นอกจากนี้ ศรีลังกา ยังมีสัตว์ทะเลในน่านน้ำศรีลังกาปริมาณมากพอที่ไทยจะเข้ามาร่วมทุนทำการประมงชายฝั่ง รวมทั้งการตั้งโรงงานผลิตสินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารทะเลได้ด้วย |
. |
ที่มา : สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ |
. |
ที่มา : เว็บไซต์รัฐบาลไทย |