เนื้อหาวันที่ : 2010-08-03 09:08:53 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1180 views

พาณิชย์ ชี้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีอยู่ที่ 3-3.5%

กระทรวงพาณิชย์ ระบุ อัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ร้อยละ 3 – 3.5 เนื่องจากสินค้าไม่มีแนวโน้มปรับราคาเพิ่มขึ้น และจะมีการลดราคา เพื่อแข่งขันด้านการตลาดช่วงปลายปี

กระทรวงพาณิชย์ ระบุ อัตราเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ร้อยละ 3 – 3.5 เนื่องจากสินค้าไม่มีแนวโน้มปรับราคาเพิ่มขึ้น และจะมีการลดราคา เพื่อแข่งขันด้านการตลาดช่วงปลายปี 

.

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์

.

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ อัตราเงินเฟ้อเดือน กรกฏาคม 2553 ว่า เท่ากับ 108.32 ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือน กรกฏาคม ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.4 เป็นการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10     

.

โดยปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้นร้อยละ 6.9 ได้รับผลกระทบจาก ดัชนีหมวดข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้นร้อยละ 10.9 เนื้อสัตว์ต่างๆ สุงขึ้นร้อยละ 3.1 และหากเทียบดัชนีราคาผู้บริโภคระยะ 7 เดือน (มกราคม – กรกฏาคม) ปี 2552 สูงขึ้นร้อยละ 3.5 ซึ่งเป็นผลมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าน้ำประปา ค่ากระแสไฟฟ้า          

.

ส่วนดัชนีผู้บริโภคทั่วไปเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2553 สูงขึ้นร้อยละ 0.16 เป็นภาวะราคาสินค้า และบริการปรับตัวสูงในอัตราที่ชะลอเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ปัจจัยสำคัญยังคงเป็นราคาสินค้าในหมวดอาหารสด และสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ราคาเริ่มปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศในเดือนกรกฏาคม 53 เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 53 สูงขึ้นร้อยละ 0.04 แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาสูงขึ้นร้อยละ 1.2

.

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังคงอัตราเงินเฟ้อ ปี 53 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ที่ระหว่างร้อยละ 3 - 3.5 และมองว่าในช่วงกับไตรมาสที่ 3 และ 4 ภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค ไม่มีแนวโน้มปรับราคาขึ้น ตามที่กระทรวงพาณิชย์ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน

.

ประกอบกับในช่วงสิ้นปี ผู้ผลิตสินค้า จะแข่งขันทางด้านราคาจึงทำให้สินค้าโดยรวม ไม่ปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงเชื่อว่า เงินเฟ้อ ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ ไตรมาสที่ 4 อัตราเงินเฟ้อจะเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.4

.
ที่มา     : สำนักข่าวแห่งชาติ  กรมประชาสัมพันธ์
ผู้เสนอ : กลุ่มวิเคราะห์ข่าวและฐานข้อมูล สำนักโฆษก
.
ที่มา : เว็บไซต์รัฐบาลไทย