เนื้อหาวันที่ : 2010-08-02 11:26:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 574 views

รมช.คลัง ชวน 50 บริษัทยักษ์ใหญ่ ตั้งสำนักงานในไทย

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 2553  นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้ต้อนรับกลุ่มนักธุรกิจจากบริษัทอเมริกันยักษ์ใหญ่ ซึ่งล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงราว 50 คน พร้อมชักชวนให้เข้ามาตั้งสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค (Regional Operating Headquarters : ROH) ในประเทศไทย ด้วยเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ใหม่ที่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในวันอังคารที่ 3 สิงหาคมนี้

.

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า “การพบกับกลุ่มนักธุรกิจอเมริกันในวันนี้ เป็นการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมีความได้เปรียบทางด้าน การแข่งขันในภูมิภาค”

.

พร้อมกันนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้ชักชวนให้บริษัทอเมริกันเหล่านั้น เข้ามาตั้งสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคในประเทศไทย โดยได้เสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่แก้ไขใหม่จากการสัมมนา ROH Forum ไม่ว่าจะเป็นภาษีนิติบุคคลที่เหลือร้อยละ 0 สูงสุดถึง 15 ปี และเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเพียงร้อยละ 10 จากรายได้ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ขณะที่ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคของไทยก็จะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราร้อยละ 15 เป็นเวลา 8 ปี

.

“นอกจากนั้นเรายังมีมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนให้มีการจัดตั้งศูนย์กลางจัดหาวัตถุดิบและชิ้นส่วน เพื่อขายให้แก่วิสาหกิจในเครืออีกด้วย ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ประเทศไทยมอบให้นี้ถือว่าจูงใจมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้” นายประดิษฐ์ กล่าว

.
กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องสิทธิประโยชน์ ROH ให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาในวันอังคารที่ 3 สิงหาคมนี้
.

นายประดิษฐ์ ยังได้กล่าวถึงประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการที่มีบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่เข้ามาตั้งสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคในประเทศไทยว่า “เรื่องนี้จะสร้างประโยชน์อย่างมหาศาลต่อประเทศ เพราะจะมีผู้บริหารต่างชาติที่มีรายได้สูงย้ายเข้ามาในไทย ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น รวมถึงมีการจับจ่ายใช้สอย และซื้อสินค้า ซึ่งจะทำให้เราสามารถเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น”

.

“นอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยวของไทย เนื่องจากจะมีการจัดงานระดับนานาชาติ ในเมืองไทยมากขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ของบริษัทนั้นๆ ก็จะมีการเดินทางไปมากับสำนักงานภูมิภาคอยู่ตลอดเวลา และประโยชน์ที่สำคัญที่สุดของการที่มีบริษัทข้ามชาติเข้ามาตั้งสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาคในไทย ก็คือจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับพนักงานคนไทยได้ก้าวไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นในระดับภูมิภาค มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีความรับผิดชอบที่สูงขึ้นด้วย” นายประดิษฐ์ กล่าว

.

“นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราต้องรีบทำ เพราะในอีก 5 ปีข้างหน้า เมื่อกำแพงการค้าภายในภูมิภาคอาเซียนพังทลายลง บริษัทต่างๆ ก็จะเลือกประเทศที่เขาคิดว่าทำงานได้ง่ายมาเป็นสำนักงานภูมิภาค ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องขยับตัวให้เร็ว และ ทันต่อเหตุการณ์ ถ้าหากเรายังต้องการจะรักษาบทบาทสำคัญในภูมิภาคนี้เอาไว้ และอยากจะคงฐานะของความเป็นศูนย์กลางทางด้านการผลิตและการบริการต่อไป” นายประดิษฐ์ กล่าวในตอนท้าย