"ส่งออก" ชี้โอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในเมืองน่าอยู่ในสหรัฐฯ แนะศึกษาสำรวจตลาด จับมือคู่ค้าหาช่องทางกระจายสินค้าไทย
|
|
| . |
|
นิตยสาร Money Magazine ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ด้านคำแนะนำด้านการเงินและการใช้จ่ายที่รู้จักกว้างขวางในหมู่ผู้บริโภคสหรัฐฯ ได้จัดอันดับเมืองที่น่าอยู่ 100 แห่งในสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2553 : America’s Best Places to Live 2010 เผยแพร่ในนิตยสารฯ ฉบับเดือนกรกฎาคม 2553 ศกนี้ พบว่า |
| . |
|
ในเขตอาณาดูแลของ สคร.ชิคาโก (ตอนกลองของสหรัฐฯ) มีเมืองที่น่าอยู่ติดอันดับในกลุ่ม TOP 100 สูงถึง 37 เมือง มากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ในสหรัฐฯ และเมือง Eden Prairie ในรัฐมินเนโซต้า ได้รับจัดเป็นอันดับที่หนึ่งของเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในสหรัฐฯ |
| . |
|
|
| . |
|
หากพิจารณาในกลุ่มเมืองที่น่าอยู่ Top 20 พบว่า มีเมืองที่น่าอยู่จำนวน 11 เมืองตั้งอยู่ในเขตความดูแลสคร. ชิคาโก ได้แก่ #1 Eden Prairie, Minnesota; #7 Overland Park, Kansas; #8 Fishers, Indiana; #9 Ames, Iowa; #10 Rogers, Arkansas; #11 Plymouth, Minnesota; #13 Woodbury, Minnesota; #14 Carmel, Indiana; #15 Eagan, Minnesota; #17 Shawnee, Kansas และ #20 Apple Valley, Minnesota |
| . |
|
อนึ่งปัจจัยด้าน อัตราการว่างงาน อำนาจในการซื้อ อัตราการขยายตัวการจ้างงานรายได้ครัวเรือน อัตราภาษีการค้า ระบบการศึกษา ราคาที่อยู่อาศัย และคุณภาพชีวิต ถูกนำมาเป็นตัวชี้วัดและพื้นฐานในการจัดอันดับเมืองที่น่าอยู่ของสหรัฐฯ |
| . |
|
อิทธิพลของการจัดอันดับ |
|
การจัดอันอับนี้มีความเชื่อถือได้สูง เนื่องจากใช้สถิติหลาย ๆ ด้านที่มีผลต่อความน่าอยู่มาประมวลเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตาม มีคนกลุ่มหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการจัดอันดับ เนื่องจากเมืองที่อาศัยอยู่ไม่ติดอันดับ |
| . |
|
ผู้บริโภคสหรัฐฯ มีอัตราการย้ายถิ่นฐานโดยเฉลี่ย 3.5 ปี ผู้บริโภค ที่มีครอบครัวแล้วมีลูกเล็ก มีรายได้ค่อนข้างสูง มีการศึกษาดี มักจะย้ายถิ่นฐานออกไปอยู่ในเมืองที่มีสภาพความเป็นอยู่ดีและอัตราการขยายตัวการจ้างงานสูง ซึ่งเมืองที่ได้รับการจัดอันดับ TOP 100 จะเป็นเมืองเป้าหมายเบื้องต้นในการเลือกที่อยู่อาศัยเมื่อย้ายถิ่นฐาน |
| . |
|
ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการธุรกิจการค้าจะขยายกิจการก็จะไปเปิดร้านค้า หรือสำนักงาน ไปตามพื้นที่ดังกล่าวด้วย เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้แก่ผู้บริโภคในพื้นที่ เนื่องจากเห็นว่า ผู้บริโภคมีจำนวนมากขึ้น ผู้บริโภคมีอำนาจในการใช้จ่ายสูง และเป็นผลให้เกิดปริมาณธุรกิจและมีโอกาสทางการค้าสูง |
| . |
| โอกาสการขยายตลาดสินค้าไทย |
|
ภูมิภาคตอนกลางของประเทศสหรัฐฯ (เขตอาณาสคร.ชิคาโก) มีเมืองที่น่าอยู่ติดอันดับ TOP 100 จำนวน 37 เมือง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สภาวะเศรษฐกิจในเขตตอนกลางฯ อยู่ในระดับดี กล่าวคือ มีอัตราการบริโภคและอัตราการจ้างงานอยู่ในระดับสูง มีมาตรฐานการครองชีพและคุณภาพชีวิตที่ดีและมีกำลังซื้อสูง อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวในอัตราสูงและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยที่จะขยายตลาดสินค้าไทยมายังสหรัฐฯ |
| . |
|
เมืองที่น่าอยู่ในเขตตอนกลางของสหรัฐฯ เป็นลู่ทางหนึ่งในการขยายตลาดสินค้าไทยซึ่งผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทยควรจะพิจารณาและศึกษา/สำรวจตลาด และเจรจาการค้ากับกลุ่มเป้าหมายควบคู่ไปกับการพิจารณาช่องทางการกระจายสินค้าไทย เนื่องจาก ผู้ประกอบการในเขตตอนกลางาของประเทศส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดย่อม มีความต้องการซื้อสินค้าจำนวนน้อย ไม่สามารถสั่งซื้อเป็นตู้คอนเทนเนอร์ แต่มีความต้องการสั่งซื้อต่อเนื่อง |
| . |
|
ดังนั้น ในการผลักดันสินค้าไทยในเขตนี้ ผู้ผลิต/ส่งออกไทยจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการในด้านการสำรองสินค้าไว้เพื่อกระจายให้ลูกค้า ในเขตตอนกลางของสหรัฐฯ ได้อย่างต่อเนื่อง |
| . |
|
ในการดำเนินการการสำรองสินค้าเพื่อจัดส่งให้ลูกค้าภูมิภาคตอนกลางสหรัฐฯ ผู้ผลิต/ส่งออกไทยควรศึกษาและหาคู่ค้าที่ยินดีให้ความช่วยเหลือเก็บรักษาสินค้าและช่วยจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า หรือพิจารณาใช้บริการคลังสินค้า (Warehousing Distribution) ที่ตั้งอยู่ในเขตตอนกลางของสหรัฐฯ ทำหน้าที่เสมือนเป็นศูนย์กระจายสินค้า ตั้งแต่การรับสินค้าจากท่าเรือ การเก็บรักษา การหีบห่อ และการจัดส่งให้แก่ลูกค้าที่ต้องการสินค้าไทยต่อไป |
| . |
|
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก |
| . |
| ที่มา : กรมส่งเสริมการส่งออก |
Thailandindustrycom_official
.gif)
