"ชัยวุฒิ" เผยญี่ปุ่นยังสนใจขยายการลงทุนในไทยต่อเนื่อง ล่าสุด "อายิโนะโมะโต๊ะ" เตรียมขยายโรงงานส่วนที่สองอีกกว่าสามพันล้านบาท เน้นใช้วัตถุดิบพืชเกษตรในพื้นที่เกษตรในพื้นที่
"ชัยวุฒิ" เผยญี่ปุ่นสนใจขยายการลงทุนในไทยต่อเนื่อง ล่าสุด "อายิโนะโมะโต๊ะ" เตรียมขยายโรงงานต่อไปอีกในส่วนที่สองที่จังหวัดกำแพงเพชร มูลค่าการลงทุน 3,400 ล้านบาท เน้นใช้วัตถุดิบพืชเกษตรในพื้นที่เกษตรในพื้นที่กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม |
. |
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม |
. |
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพและเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่เข้ามาลงทุนในไทยได้เตรียมขยายโรงงานผลิตผงชูรส “อายิโนะโมะโต๊ะ” ที่จังหวัดกำแพงเพชร ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 3,400 ล้านบาท โดยเป็นส่วนขยายกำลังการผลิตจากโรงานในจังหวัดสมุทรปราการ |
. |
ทั้งนี้บริษัทได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งการตั้งโรงงานดังกล่าว เป็นการขยายกำลังการผลิตให้เพียงพอสำหรับการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยประมาณ 90% จะเน้นการส่งออก และคาดว่าหลังจากเดินเครื่องผลิตแล้วจะมีรายได้เฉลี่ยกว่า 2,500 ล้านบาท ต่อปี โดยคาดว่าแบ่งการดำเนินงานเป็ฯ 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 สามารถเดินเครื่องผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2554 และระยะที่ 2 เดินเครื่องในเดือนตุลาคมปี 2556 |
. |
ปัจจุบันบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ มีโรงงานรวม 4 แห่ง ได้แก่ โรงงานพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ผลิตผงชูรสและสินค้าเพื่อการบริโภค อาทิ กาแฟสำเร็จรูปทรีอินวัน โรงงานจังหวัดปทุมธานี ผลิตอาหารสัตว์และโรงงานหนองแค จังหวัดสระบุรี ผลิตผงปรุงรสต่าง ๆ และโรงงานจังหวัดกำแพงเพชรซึ่งดำเนินการผลิตผงชูรส โดยเป็นส่วนต่อขยายจากโรงงานในจังหวัดสมุทรปราการ |
. |
“การขยายการลงทุนดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ โดยประเทศไทยยังมีศักยภาพและมีความได้เปรียบในด้านของวัตถุดิบและพื้นที่รวมไปถึงการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ แก่นักลงทุน ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนให้หันมาลงทุนในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง” นายชัยวุฒิ กล่าว |
. |
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นอกจากการส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่องแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมยังให้ความสำคัญโดยมุ่งให้ผู้ประกอบการและโรงงานมีการบริหารจัดการโรงงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยโรงงานดังกล่าวได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้สามารถใช้ผลผลิตทางการเกษตรที่มีอยู่หลากหลายในพื้นที่ร่วมกับวัตถุดิบหลัก ได้แก่ |
. |
แป้งมันสำปะหลังและกากน้ำตาลรวมทั้งการนำแกลบมาใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไอน้ำแทนการใช้น้ำมันเตา นับเป็นการลดการใช้เชื้อเพลิงปิโตรเลียมที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ลดการปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของสภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย ทั้งยังเป็นการกระจายรายได้ สู่ท้องถิ่นอีกทางหนึ่ง |
. |
โดย กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม |