ลีแวนซ์ รีนิวเอเบิล ไซแอนส์ ประกาศร่วมทุนกับวิลมาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล สร้างโรงกลั่นน้ำมันชีวภาพระดับโลก เริ่มปฏิบัติการด้วยความสามารถในการผลิต 180 kMT
. |
บจก. อีลีแวนซ์ รีนิวเอเบิล ไซแอนส์ (Elevance Renewable Sciences) ประกาศว่าบริษัทได้ทำสัญญาเพื่อร่วมทุนกับวิลมาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (Wilmar International) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทธุรกิจด้านเกษตรกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเพื่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันชีวภาพระดับโลกขึ้น |
. |
โดยการร่วมทุนในครั้งนี้จะใช้เทคโนโลยีด้านการกลั่นน้ำมันชีวภาพของอีลีแวนซ์เพื่อผลิตสารเคมีที่มีประสิทธิภาพและมูลค่าสูง เชื้อเพลิงชีวภาพคุณภาพสูง และโอลีโอเคมิคอล ในปัจจุบันมีความต้องการผลิตภัณฑ์ในประเภทนี้มากขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อใช้ในการผลิตสารลดแรงตึงผิว ยาต้านจุลชีพ สารหล่อลื่น พลังงานทดแทนไบโอดีเซล และเชื้อเพลิงสะอาด |
. |
โรงงานขนาดใหญ่แห่งนี้จะเริ่มปฏิบัติการด้วยความสามารถในการผลิต 180 kMT (ประมาณ 400 ล้านปอนด์) และจะสามารถขยายกำลังการผลิตเป็น 360 kMT (ประมาณ 800 ล้านปอนด์) โดยโรงงานแห่งนี้จะอยู่ในศูนย์การผลิตแห่งใหม่ของวิลมาร์ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซูราบายา ประเทศอินโดนีเซีย และกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง |
. |
โรงงานแห่งใหม่นี้คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ในปี 2011 และจะสามารถปฏิบัติการได้โดยใช้พลังงานทดแทน เช่น ปาล์ม มัสตาร์ด ถั่วเหลือง สบู่ดำ และน้ำมันถั่วเหลืองเช่นเดียวกับโรงงานอื่นๆ ของอีลีแวนซ์ด้วย |
. |
เมื่อเปิดดำเนินการแล้ว โรงกลั่นน้ำมันชีวภาพแห่งนี้จะผลิตโอเลฟินสะอาด เช่น อัลฟาและอินเทอร์นอลโอเลฟิน สำหรับการผลิตสารเคมีและเชื้อเพลิงคุณภาพสูง เอสเตอร์และกรดหลายประเภท รวมถึง กรด 9-decenoic และส่วนประกอบคุณภาพสูงของโอลีโอเคมีคอล และเชื้อเพลิงชีวภาพคุณภาพสูง |
. |
"เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์ของอีลีแวนซ์นั้นเหมาะกับธุรกิจและการประกอบการของเราในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่งทั้งยังสามารถสร้างโอกาสในการเจริญเติบโตอันน่าตื่นเต้นด้วย การร่วมทุนในครั้งนี้เป็นการสร้างเสริมคุณค่าของผลิตภัณฑ์พลังงานทดแทนของเราที่คุ้มค่า" ราอูล คาเล (Rahul Kale) ผู้อำนวยการแผนกโอลีโอเคมีคอลและเชื้อเพลิงชีวภาพขอองวิลมาร์กล่าว “เราต้องการที่จะทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาและใช้งานเทคโนโลยีที่โรงงานของเรา" |
. |
"ในฐานะผู้นำในการผลิต การกลั่น และการตลาดของวงการพลังงานทดแทน วิลมาร์จึงเป็นพันธมิตรด้านการกลั่นพลังงานชีวภาพขนาดใหญ่ที่เหมาะสมที่สุดที่อีลีแวนซ์จะร่วมทุนด้วย” เค’ลีน จอห์นสัน (K'Lynne Johnson) CEO ของอีลีแวนซ์กล่าว “ความสามารถระดับสูงและฐานปฏิบัติการในเอเชียของวิลมาร์จะช่วยให้เราสามารถสร้างโรงงานและเริ่มปฏิบัติการเพื่อผลิตสารเคมีที่มีต้นทุนต่ำ ประสิทธิภาพสูง และสามารถผลิตทดแทนได้ให้แก่ตลาด การร่วมทุนในครั้งนี้ถือเป็นก้าวต่อไปแห่งการเจริญเติบโตของอีลีแวนซ์ในระดับโลก” |
. |
การร่วมทุนครั้งนี้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยและเงื่อนไขบางประการ เช่น การอนุญาตของรัฐบาล |