เนื้อหาวันที่ : 2010-06-28 09:16:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1401 views

อินดียเล็งไทยเป้าหมายใหม่อะไหล่คุณภาพราคาถูก

กรมส่งเสริมการส่งออกเผย อุตยานยนต์อินเดียพุ่งทะยาน แต่ราคาอะไหล่ในประเทศยังราคาสูง เล็งแหล่งชิ้นส่วนราคาถูกและมีคุณภาพอย่างประเทศไทย

กรมส่งเสริมการส่งออกเผย อุตยานยนต์อินเดียพุ่งทะยาน แต่ราคาอะไหล่ในประเทศยังราคาสูง เล็งแหล่งชิ้นส่วนราคาถูกและมีคุณภาพอย่างประเทศไทย

.

.

ในปี 2552 อินเดียนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ สูงถึง 6.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 30.8% ของอุตสาหกรรมในประเทศ ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์บางรายถึงกับมองไปไกลถึงขนาดว่าหากย้ายฐานจากอินเดียไปผลิตในเกาหลี หรือประเทศไทยแล้วส่งกลับไปขายอินเดียจะถูกกว่าหรือไม่
อุตสาหกรรมรถยนต์ในอินเดียถือได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มาแรง       

.

แต่ด้วยราคาชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ที่อินเดียเองมีราคาที่ค่อนข้างสูง แม้แต่รถยนต์ยี่ห้อดังอย่าง มารูติซูซูกิ เองส่วนใหญ่จะใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศถึงร้อยละ 95 แต่ด้วยราคาชิ้นส่วนที่จะนำมาผลิตรถนั้นมีราคาสูงขึ้น ทำให้ชาวอินเดียเริ่มที่จะมองหาแหล่งชิ้นส่วนราคาถูกและมีคุณภาพอย่างประเทศไทย

.

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เผยว่า ตลาดรถยนต์นั่งของอินเดียเป็นตลาดของรถเล็กเป็นหลัก โดยมีสัดส่วน 75% ของตลาดรถยนต์นั่งที่มีมารูติซูซูกิเป็นผู้นำตลาดโดยยอดขายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมาสูงโด่งเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์โดยทำยอดขายได้ถึง 1 แสนคันต่อเดือน และถือเป็นครั้งแรกของอินเดียด้วย คาดว่ามารูติซูซูกิจะทำยอดขายทะลุเป้า 1 ล้านคันเป็นเจ้าแรกของอินเดียในปีนี้ได้อย่างแน่นอน

.

“ในปี 2552 อินเดียนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ สูงถึง 6.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 30.8% ของอุตสาหกรรมในประเทศ ปัจจุบันการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์จากเกาหลีใต้ อาเซียน และอียู (ซึ่งกำลังเจรจา FTA กับอินเดียอยู่) คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 70 ของการนำเข้าชิ้นส่วนฯ

.

ซึ่งหากการนำเข้ายังขยายตัวสูงต่อไปเช่นนี้ เป็นไปได้ว่าโรงงานชิ้นส่วนฯ ของอินเดียหลายแห่งต้องปิดตัวลง หรือไม่ก็ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดด้วยการเพิ่มการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ให้สูงถึง 2-2.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2558 ผู้ผลิตรถยนต์บางรายถึงกับมองไปไกลถึงขนาดว่าหากย้ายฐานจากอินเดียไปผลิตในเกาหลี หรือประเทศไทยแล้วส่งกลับไปขายอินเดียจะถูกกว่าหรือไม่” นางศรีรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม

.

ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์อินเดียเติบโตปีละ 25% ยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์อินเดียเติบโตมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมีการนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งปัจจุบันภาษีศุลกากรขาเข้าสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ไม่สูงนักแค่ 10% เท่านั้น

.

นอกจากนั้น FTA  อินเดีย-เกาหลีใต้ และ FTA อาเซียน- อินเดีย ที่มีผลบังคับใช้แล้วก็ทำให้ฮุนได และบริษัทญี่ปุ่นต่างตัดสินใจนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่าการซื้อชิ้นส่วนในประเทศเพราะราคาถูกกว่า เช่น โตโยต้ามีแผนออกรถเล็กรุ่น Eitos ในอินเดียโดยนำเข้าเครื่องยนต์และชิ้นส่วนหลักๆ จากโรงงานในประเทศไทยโดยตรง คาดว่าจะทำยอดขายได้ 7 หมื่นคันต่อปี แม้แต่ฮอนด้าเองก็ชอบนำเข้าชิ้นส่วนฯ จากไทยมากกว่า

.
ที่มา : กรมส่งเสริมการส่งออก