เอสเอสไอ ปลื้มรับอีกรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นด้านโลจิสติกส์ หลังมุ่งมั่นสู่องค์กรแห่งนวัตกรรมตามแนวทางวิสัยทัศน์ใหม่ “สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้า สร้างกำไรสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน”เผยบริษัทมีกลุยทธด้านโลจิสติกส์ชัดเจนโดยเฉพาะตัวชี้วัด การวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมระบบไอทีเชื่อมโยง ด้านบริษัทในกลุ่มไม่น้อยหน้า เหล็กแผ่นรีดเย็นไทยคว้ารางวัลประเภทเพิ่มผลผลิต |
. |
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าตามที่กระทรวงได้ดำเนินการคัดเลือกรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2553 โดยการประกวดคัดเลือก บริษัท โรงงานอุตสาหกรรม ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดเป็นอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมและดีเด่น ประจำปี 2553 |
. |
เพื่อเป็นกำลังใจ และยกย่องให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมรายอื่น ในการมีความคิดริเริ่ม ความวิริยะอุตสาหะ มุ่งสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศนั้น มีบริษัทและโรงงานที่ได้รับการพิจาณาคัดเลือก 31 ราย แบ่งเป็นรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม 1 ราย และรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 30 ราย |
. |
ทั้งนี้มีบริษัทในกลุ่มเอสเอสไอที่ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 บริษัท ได้แก่ |
. |
นอกจากนี้ยังมีรางวัลด้านการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปี 2544 และ 2551 รางวัลด้านการบริหารงานคุณภาพ ปี 2545 และ 2550 รางวัลด้านการจัดการพลังงาน ปี 2549 และรางวัลด้านการบริหารความปลอดภัย ปี 2546 |
. |
2. บริษัท เหล็กแผ่นรีดเย็นไทย จำกัด (มหาชน) (TCRSS) ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2553 ประเภทการเพิ่มผลผลิต ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเคยได้รับ รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการจัดการพลังงาน ในปี 2552 และเคยได้รับรางวัลด้านการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปี 2550 รางวัลด้านการบริหารความปลอดภัย ปี 2551 รวมถึงการบริหารงานคุณภาพ ปี 2546 |
. |
สำหรับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะเข้ารับรางวัลจาก ฯพณฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในพิธีมอบรางวัลที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2553 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล |
. |
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอสไอ เปิดเผยว่า รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการจัดการโลจิสติกส์ ประจำปี 2553 ที่เอสเอสไอได้รับนี้ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ยืนยันถึงแนวทางการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ของเอสเอสไอ คือ |
. |
“สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้า สร้างกำไรสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน” นั้นเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เมื่อผนวกรวมกับการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังของกลุ่มผู้บริหารและพนักงานทุกระดับเพื่อการพัฒนาศักยภาพการดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมเหล็กให้ประสบความสำเร็จ ทั้งการปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า |
. |
การดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน การพัฒนารูปแบบการบริการให้สะดวกรวดเร็วครอบคลุมครบวงจร ทั้งการจัดส่ง การบริการหลังการขาย และการให้บริการด้านวิศกรรมซ่อมบำรุงที่ครบวงจร รวมถึงการเร่งพัฒนาบุคลากร ส่งผลให้เอสเอสไอได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลด้านต่างๆ จากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในระดับประเทศมาอย่างต่อเนื่อง |
. |
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เอสเอสไอได้รับรางวัลด้านโลจิสติกส์ คือ 1. บริษัทมีการกำหนดกลยุทธ์ ด้านโลจิสติกส์ที่ชัดเจน โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเป็นทีม กำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน ประชุมทบทวนแผนกลยุทธ์ทุกเดือน และระบบประเมินความพึงพอใจของลูกค้าเป็นประจำ 2. บริษัทวางแผนงานทางด้านโลจิสติกส์ได้ล่วงหน้า โดยมีการพยากรณ์ จากข้อมูลในอดีตจนถึงอนาคต และวางแผนผลิตให้สอดคล้องกัน 3. กระบวนการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ |
. |
โดยบริษัทมีระบบที่สามารถคำนวณหาประสิทธิภาพและคุณภาพจัดส่งสินค้า ต้นทุนโลจิสติกส์ อัตราหมุนเวียนสินค้าคงคลัง ระยะเวลาในการส่งมอบ และกิจกรรมปรับปรุงโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังมีระบบบริหารข้อมูลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เชื่อมโยงข้อมูลถึงกันที่มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกันกับความร่วมมือกับองค์กรอื่นๆในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” กรรมการผู้จัดการใหญ่กล่าว |
. |
เอสเอสไอเป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนรายแรกของไทย ด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 4 ล้านตันต่อปี ซึ่งได้รับการยอมรับให้เป็นโรงงานที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายแรกของประเทศที่ได้รับรางวัล ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ในปี 2546 และเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 เอสเอสไอสามารถผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนได้ครบ 20 ล้านตัน เป็นรายแรกของไทยอีกด้วย |
. |
ล่าสุดด้วยระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพได้เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้ไตรมาส 1/2553 บริษัทสามารถผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนได้ทั้งสิ้น 689,831 ตัน และมีปริมาณส่งมอบผลิตภัณฑ์ 679,049 ตัน ซึ่งเป็นปริมาณการผลิตและส่งมอบผลิตภัณฑ์รายไตรมาสสูงสุดของบริษัทและของบริษัทเหล็กในประเทศไทย ทั้งนี้ ในปี 2553 เอสเอสไอตั้งเป้าหมายการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนและส่งมอบให้กับลูกค้า 2.7 ล้านตัน และมียอดขาย 50,000 ล้านบาท |