เนื้อหาวันที่ : 2010-06-23 09:49:47 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 575 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 23 มิ.ย. 2553

1. ยอดเงินฝากและสินเชื่อของธนาคารเดือน พ.ค.53 เพิ่มขึ้น

-  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไทย 14 แห่ง ในเดือน พ.ค. 53 สูงขึ้น แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ  โดยทั้งยอดเงินฝากและยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิ (หักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ) มีจำนวน 6.64 ล้านบาท และ 5.98 ล้านบาท ตามลำดับ  ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่มีจำนวน 6.52 ล้านบาท และ 5.89 ล้านบาท ตามลำดับ

.

-  สศค.วิเคราะห์ว่า สภาพคล่องที่สูงในเดือนพ.ค.53 มาจากธนาคารพาณิชย์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เงินออมที่มีผลตอบแทนที่จูงใจประชาชนให้มีการออมเงินมากขึ้นเพื่อรองรับอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามทิศทางการลงทุนภาคเอกชนในไตรมาสที่ 1 ปี 53 ที่เติบโตได้สูงถึงร้อยละ 15.8 

.

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเดือน มิ.ย.53 สภาพคล่องในระบบมีแนวโน้มที่จะลดลงจากการออกพันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็งของกระทรวงการคลัง  และการนำเสนอหุ้นกู้ของภาคเอกชน  ซึ่งอาจจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต  ทั้งนี้ ในการประมาณการเศรษฐกิจไทยของปี 53  สศค. ตั้งสมมุติฐานว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ในช่วงร้อยละ 1.25-1.50 ต่อปี (คาดการณ์ ณ มี.ค. 53)

.

2. นักลงทุนได้โอกาส หลังประเทศลาวปรับปรุงกฎหมายส่งเสริมการลงทุนใหม่

-  กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สภาแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป. ลาว) ได้ออกกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนฉบับใหม่ ซึ่งเป็นการปรับปรุงโดยนำกฎหมายว่าด้วยการลงทุนภายใน และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศรวมไว้ในฉบับเดียว เพื่อให้นักลงทุนท้องถิ่นและนักลงทุนต่างประเทศได้รับสิทธิประโยชน์เท่าเทียมกัน การปรับปรุงกฎหมายส่งเสริมการลงทุนใหม่ นั้น เพื่อเป็นการรองรับการเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO)

.

-  สศค.วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันประเทศลาวเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจของนักลงทุนชาวต่างชาติมาก สะท้อนได้จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงถึงร้อยละ 7.5 ต่อปี ในปี 52 และมีทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญ เช่น เหล็ก ทองคำ ทองแดง และถ่านหิน นอกจากนี้ ลาวมีภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปสู่ตลาดใหญ่ต่างๆ เช่น จีน เวียดนาม ซึ่งสามารถส่งสินค้าไปยังตลาดอื่นๆ ได้สะดวก

.

ซึ่งปัจจุบันมูลค้าการค้าบริเวณชายแดนไทย-ลาวในปี 53 (ม.ค.-เม.ย.) มีมูลค่าสูงถึง 28.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.2 ต่อปี โดยแบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 21.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.5 ต่อปี และมูลค่าการนำเข้า 7.2 พันล้านบาท  เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.0 ต่อปี ทั้งนี้ นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในประเทศลาวเป็นอันดับหนึ่ง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2543-2552) มีมูลค่าเงินลงทุนสะสมกว่า 2,650 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

.

3. ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีเพิ่มขึ้น ในเดือน มิ.ย. 53

-  สถาบันวิจัยธุรกิจไอโฟ (Ifo) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนี (Ifo business climate index) ในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 101.8 จุด จาก 101.5 ในเดือนพฤษภาคม โดยนายฮานส์ เวอร์เนอร์ ซินน์ประธานของไอโฟกล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจเยอรมนีฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในช่วงปีที่ผ่านมา การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีอยู่ในระดับปานกลาง เป็นผลมาจากการส่งออกของประเทศที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง

.

-  สศค.วิเคราะห์ว่า การเพิ่มขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนี บ่งชี้ว่าภาคการผลิตจะมีการปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะภาคการผลิตเพื่อการส่งออก อย่างไรก็ตาม วิกฤติหนี้สาธารณะของยุโรปยังมีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหภาพยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ การใช้นโยบายการการคลังที่เข้มงวดโดยการลดงบประมาณรายจ่ายในภูมิภาคยุโรปอาจจะฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีได้เช่นกัน

.

ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของไทยไปยังสหภาพยุโรปมีสัดส่วนร้อยละ 10.5 ต่อมูลค่าส่งรวม ในปี 2552 และขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 19.3 ต่อปีในเดือนพฤษภาคม ดังนั้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ในสหภาพยุโรปจึงมีผลต่อเศรษฐกิจไทย โดย สศค. คาดว่า เศรษฐกิจยุโรปจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 1.0 ต่อปี ในปี 2553 (คาดกาณ์ ณ มี.ค. 53)

.

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง