โครงการยุทธศาสตร์ 5-5-5 ลีมอ ดาซาร์ ห้าจังหวัด ห้ารัฐ และห้าสาขาเศรษฐกิจ (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า) |
. |
คำแถลงข่าวของ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) เดินทางเยือนประเทศมาเลเซีย ตาม “โครงการยุทธศาสตร์ 5-5-5 ลีมอ ดาซาร์ ห้าจังหวัด ห้ารัฐ และห้าสาขาเศรษฐกิจ” ณ ห้องกิติยากรวรลักษณ์ กระทรวงพาณิชย์ |
. |
ประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันโดยเฉพาะทางด้านการค้า โดยมูลค่าการค้ารวมของประเทศทั้งสองในปี พ.ศ.2552 มีมูลค่าการค้ารวม 556,179 ล้านบาท เป็นการส่งออกสินค้าไทยมูลค่า 260,864 ล้านบาท และเป็นการนำเข้าสินค้าจากมาเลเซียมูลค่า 295,315 ล้านบาท หรือขาดดุลทางการค้า 34,452 ล้านบาท โดยการค้าระหว่างประเทศของประเทศไทยและมาเลเซียที่ดำเนินอยู่กว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าการค้ารวมเป็นการค้าชายแดน |
. |
ในช่วงไตรมาสแรก (มค.-มีค.) ของปีนี้ มูลค่าการส่งออกของไทยผ่านชายแดนไปประเทศมาเลเซียเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 64 หรือเท่ากับ 78,776 ล้านบาท และการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 หรือเท่ากับ 45,002 ล้านบาท |
. |
มูลค่าการค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากความร่วมมือของอาเซียนที่มุ่งลดอุปสรรคการค้าโดยการจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน โดยนับแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553 อัตราภาษีส่วนใหญ่ของประเทศสมาชิกจะลดเหลือร้อยละ 0-5 ซึ่งจะส่งผลให้การค้าของประเทศในอาเซียนรวมถึงการค้าระหว่างไทยและมาเลเซียขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง |
. |
จากการเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซียตามโครงการโลจิสติกส์สัญจรครั้งที่ 4/2552 ในระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2552 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายอลงกรณ์ พลบุตร) ได้ร่วมหารือผู้บริหารภาคราชการและเอกชน ใน 4 รัฐภาคเหนือ ได้แก่ รัฐปะลิส เคดาห์ เปรัคและกลันตัน และพิจารณาเห็นว่าประเทศไทยและมาเลเซียสามารถที่จะพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันเพื่อสร้างความกินดีอยู่ดีแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนของตนผ่านทางการสร้างความสัมพันธ์ ความร่วมมือ และเครือข่ายทั้งในรูปความสัมพันธ์ในภาครัฐและเอกชน |
. |
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จึงได้ประกาศยุทธศาสตร์ 5-5-5 ลีมอ ดาซาร์ ห้าจังหวัด ห้ารัฐ และห้าสาขาเศรษฐกิจ คือ การค้า การลงทุน อุตสาหกรรมฮาลาล อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว ระหว่าง 5 รัฐตอนเหนือของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐปะลิส เคดาห์ เปรัคและกลันตัน และ รัฐปีนัง กับ 5 จังหวัดภาคใต้ของไทย ได้แก่ นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา, สตูล และ สงขลา |
. |
การดำเนินการ แบ่งออกเป็น 3 กิจกรรมหลักคือ |
1. การจัดประชุมเชิงปฎิบัติการร่วมกับภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แก่ ผู้แทนจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ผู้แทนจากหอการค้าจังหวัด ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดและผู้ประกอบการ โดยได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 ณ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเตรียมความพร้อมและสรุป รวบรวมประเด็นที่สำคัญ และเสนอโครงการความร่วมมือต่างๆ เพื่อนำไปหารือกับประเทศมาเลเซีย โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เดินทางไปเป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ด้วย |
. |
2. จัดคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้เดินทางไปเยือน 5 รัฐเหนือของมาเลเซียในวันที่ 10-12 มิถุนายน พ.ศ.2553 เพื่อนำภาครัฐและเอกชน 5 จังหวัดใต้ไปพบหารือถึงโครงการความร่วมมือต่างๆที่จะเกิดขึ้น และเตรียมการจัดประชุม “ Business Forum” |
. |
3. จัดประชุม Lima Dasar Summit / Business Forum เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านการค้า การลงทุน อุตสาหกรรม ฮาลาล อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว โดยมีนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยและมาเลเซียเป็นประธานเปิดการประชุม ซึ่งจะมีผู้ว่าราชการภาคใต้ทั้ง 5 จังหวัด และมุขมนตรีรัฐภาคเหนือของมาเลเซียภาครัฐมาร่วมประชุม สำหรับ Business Forum เป็นการประชุมและการเจรจาการค้าการลงทุนระหว่างภาคเอกชน |
. |
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนภาครัฐและเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนจังหวัดละ 100 คน รวม 500 คน และ จากมาเลเซียรัฐละ 100 คน รวม 500 คน รวมทั้งสิ้น 1,000 คน โดยกำหนดจัดการประชุมดังกล่าวในช่วงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม พ.ศ.2553 ณ จังหวัดสงขลา |
. |
ผู้นำภาครัฐและเอกชนที่ได้เข้าพบ ได้แก่ |
1. Dato Mukhriz Tun Mahathir, Deputy Minister (Trade) MITI |
. |
ประเด็นสำคัญๆ ที่ได้เจรจาในครั้งนี้ เช่น |
1. การร่วมมือในอุตสาหกรรมฮาลาลเนื่องจากประเทศไทยมีความชำนาญในด้านการผลิตสินค้าฮาลาล ในขณะที่ประเทศมาเลเซียมีความเชี่ยวชาญในด้านการส่งเสริมตรารับรองสินค้าฮาลาล และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศผู้นำเข้าสินค้าฮาลาลในตลาดสำคัญ เช่น ตะวันออกกลาง |
. |
3. ความร่วมมือทางด้านการศึกษาโดยฝ่ายไทยมีมหาวิทยาลัยอิสลาม ปัตตานี เป็นหน่วยงานประสานความร่วมมือ |
. |
5. การจดทะเบียนรถบรรทุกร่วม 5 จังหวัด 5 รัฐการ และเจรจากับประเทศมาเลเซียให้รถบรรทุกของไทยและมาเลเซีย สามารถวิ่งขนส่งสินค้าขาเข้าและขาออกระหว่างกัน ทั้ง 5 รัฐ ของประเทศมาเลเซียและ 5 จังหวัดภาคใต้ของไทยเพื่อส่งเสริมการประกอบการขนส่งระหว่างสองประเทศ |
. |
6. การลงทุนในสาขาต่างๆในมาเลเซีย เช่น ความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ และ การลงทุนขุดเจาะน้ำมันในทะเลในรัฐกะลันตัน, ความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีทางการเกษตรในรัฐเปรัคซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติมาก เช่น ปลาสวยงามที่สามารถร่วมมือกับประเทศไทยในด้านการผลิตและการตลาดได้ รวมทั้งความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยวและการศึกษาในรัฐเคดาห์ เป็นต้น |
. |
7. ความร่วมมือทางด้านโลจิสติกส์ เช่น การสร้างอุโมงค์เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดสตูลและรัฐปาริดและ การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโกลกแห่งที่สาม เป็นต้น |
. |
การดำเนิน โครงการยุทธศาสตร์ 5-5-5 ลีมอ ดาซาร์ ห้าจังหวัด ห้ารัฐ และห้าสาขาเศรษฐกิจ เป็นการ พัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะด้านการค้าชายแดน การลงทุน อุตสาหกรรมฮาลาล อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว ให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น อันจะเป็นการสร้างงานแก่ประชาชนในพื้นที่และทำให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้ ได้ตั้ง เป้าหมายให้มูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยและมาเลเซียในระยะ 5 ปี จากปี พ.ศ.2553-2557 เพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 10 |